วันนี้ (13 กันยายน) ที่ทำเนียบรัฐบาล ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลุกขึ้นชี้แจงในรัฐสภาว่าประชาชนอยากให้แก้ไขปัญหายาเสพติดมากกว่าที่จะดำเนินโครงการ ดิจิทัลวอลเล็ต ว่าเป็นเรื่องที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อนหลายด้าน ซึ่งปัญหายาเสพติดก็เป็นปัญหาระดับต้นๆ ฉะนั้นทุกหน่วยงานก็พร้อมที่จะแก้ปัญหานี้
ขณะที่กองทัพมีความพยายามควบคุมหรือดูแลพื้นที่ชายแดนทั้งหมด ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ยาเสพติดเข้ามา เนื่องจากที่จับได้ในประเทศไม่ใช่รายใหญ่หรือต้นทาง ฉะนั้นเมื่อตนเข้าไปในกระทรวงจะต้องพูดคุย และขณะนี้กองทัพดำเนินการเรื่องนี้อยู่แล้ว
ขณะที่เรื่องดิจิทัลวอลเล็ตเป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับความเป็นอยู่ของประชาชน ตนเชื่อว่าประชาชนก็มีความปรารถนาและต้องการเงินหรือทรัพยากรที่จะใช้แก้ไขปัญหาต่างๆ ครอบครัวใดที่ไม่เกี่ยวข้องกับปัญหายาเสพติดก็ต้องการมากกว่า บางครอบครัวมีเงินพอเลี้ยงครอบครัวได้ แต่ภายในครอบครัวหรือรอบข้างมีปัญหายาเสพติดก็จะสนใจเรื่องนั้นหมด
ส่วนดิจิทัลวอลเล็ตเฟส 2 จะได้ภายในปี 2567 หรือไม่ ภูมิธรรมระบุว่า ตนเชื่อว่าเฟส 1 รัฐบาลทำได้อย่างดี และภายหลังจากทำเฟส 1 เสร็จ เฟส 2 ทำได้เร็วที่สุดเมื่อไรก็จะเร่งทำเมื่อนั้น
แนะฝ่ายค้านคนรุ่นใหม่เลี่ยงสร้างวาทกรรม
ภูมิธรรมยังกล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายค้านอภิปรายโดยใช้คำว่า ‘รัฐบาลสามนาย’ ว่า นายกรัฐมนตรีพูดในสภาแล้ว และคิดว่าสิ่งที่นายกรัฐมนตรีพูดมีเหตุผล ฝ่ายค้านน่าจะนำเอาสิ่งนี้ไปพิจารณาด้วย สิ่งที่นายกรัฐมนตรีเรียกร้องคือเราเป็นคนรุ่นใหม่ สามารถสร้างตัวเป็นแบบอย่างได้ ไม่อยากให้ใช้วาทกรรมที่เสียดสีด้อยค่าคน ควรจะหลีกห่างและหลีกหนีวาทกรรมเหล่านี้
“วันนี้ประเทศวิกฤตมาก ทั้งปัญหาอุทกภัยและปัญหาชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน แทนที่จะด้อยค่า ควรมาเสนอแนะอย่างจริงจังและจริงใจน่าจะดีกว่า ไม่ควรมาใช้สำนวน หยิบบางจุดบางประเด็นมาอภิปราย เยาะเย้ย ด้อยค่า ถากถาง คิดว่าเราควรจะช่วยกัน อะไรที่มีปัญหาก็วิพากษ์วิจารณ์มาได้ เสนอแนะ แต่ไม่ใช่ใช้วิธีการเยาะเย้ย ถากถาง หรือปล่อยในโซเชียลมีเดีย ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด” ภูมิธรรมกล่าว
ภูมิธรรมย้ำด้วยว่า วันนี้รัฐบาลรวมกันเสียงไม่ใช่น้อย 10 ล้านเสียงของพรรคเพื่อไทยรวมกับทุกเสียง เป็นเสียงข้างมากในสังคมไทย ดังนั้น 10 ล้านเสียงของฝ่ายค้าน อย่าใช้เรื่องนี้มาด้อยค่าคนอื่น สังคมมีความต่าง พิสูจน์ตัวเองด้วยการกระทำดีกว่าพิสูจน์ด้วยสำนวนหรือโวหาร
ส่วนในการอภิปรายวานนี้ที่พูดถึงความเป็นนายกรัฐมนตรีจริงของแพทองธารกับ ทักษิณ ชินวัตร หลายครั้ง ภูมิธรรมกล่าวว่า อยากพูดก็พูด คนจะตัดสินเองว่าใครที่สนใจหรือหมกมุ่นกับบางเรื่องโดยไม่ก้าวข้ามให้ประเทศได้เดินหน้าต่อไป
