วันนี้ (30 กรกฎาคม) พชร อนันตศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) แจ้งว่า สบน. จะเปิดจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ของกระทรวงการคลังในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ครั้งที่ 2 วงเงินรวม 40,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น
- การจำหน่ายให้กับประชาชน วงเงิน 35,000 ล้านบาท ผ่าน 2 ช่องทาง ได้แก่ วอลเล็ต สบม. (สะสมบอนด์มั่งคั่ง) บนแอปพลิเคชันเป๋าตัง วงเงิน 10,000 ล้านบาท และช่องทางต่างๆ ของธนาคารตัวแทนจำหน่าย วงเงิน 25,000 ล้านบาท และ
- การจำหน่ายให้กับนิติบุคคลไม่แสวงหากำไรตามที่กระทรวงการคลังกำหนด วงเงิน 5,000 ล้านบาท โดยมีรายละเอียดช่องทางการจำหน่ายดังนี้
เปิดจำหน่ายผ่าน 2 ช่องทาง ได้แก่ ‘เป๋าตัง-ธนาคาร’
1. การจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ผ่านวอลเล็ต สบม. บนแอปพลิเคชันเป๋าตัง
พันธบัตรออมทรัพย์บนวอลเล็ต สบม. ของกระทรวงการคลัง ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ครั้งที่ 2 วงเงิน 10,000 ล้านบาท
- รุ่นอายุ 5 ปี ให้ผลตอบแทนคงที่ 3% ต่อปี
- รุ่นอายุ 10 ปี ให้ผลตอบแทนคงที่ 3.40% ต่อปี
โดยจะเริ่มจำหน่ายวันที่ 13-30 สิงหาคม 2567 (เวลา 08.30 น. เป็นต้นไป)
สำหรับผู้มีสิทธิ์ซื้อต้องเป็นบุคคลธรรมดาที่ถือสัญชาติไทย ที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป
สำหรับวงเงินขั้นต่ำอยู่ที่ 100 บาท สูงสุด 50 ล้านบาท (หน่วยละ 100 บาท) โดยวิธีการจัดสรรจะอยู่ในรูปแบบ First-Come, First-Served หรือมาก่อนได้รับสิทธิ์ก่อน
2. การจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ผ่านธนาคารตัวแทนจำหน่ายทั้ง 6 ราย แบ่งเป็น 2 ช่วง
- ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
- ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน)
ช่วงที่ 1 จองซื้อได้วันที่ 19-21 สิงหาคม 2567
วงเงิน 25,000 ล้านบาท สำหรับบุคคลธรรมดาที่ถือสัญชาติไทย หรือมีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย
- รุ่นอายุ 5 ปี ให้ผลตอบแทนคงที่ 3% ต่อปี
- รุ่นอายุ 10 ปี ให้ผลตอบแทนคงที่ 3.40% ต่อปี
สำหรับวงเงินขั้นต่ำอยู่ที่ 1,000 บาท และไม่จำกัดวงเงินขั้นสูง (หน่วยละ 1,000 บาท) โดยมีช่องทางการจำหน่ายผ่าน Internet Banking, Mobile Banking และเคาน์เตอร์ของธนาคารตัวแทนจำหน่ายทั้ง 6 แห่ง
ส่วนวิธีการจัดสรรอยู่ในรูปแบบ Small Lot First (การทยอยจัดสรรพันธบัตรเป็นรอบๆ เวียนจนครบผู้ซื้อทุกราย)
ช่วงที่ 2 จำหน่ายวันที่ 26-27 สิงหาคม 2567
วงเงิน 5,000 ล้านบาท สำหรับสภากาชาดไทย มูลนิธิ สมาคม สหกรณ์ วัด สถานศึกษาของรัฐ โรงพยาบาลของรัฐ นิติบุคคลอาคารชุด นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร และนิติบุคคลอื่นที่จัดตั้งตามกฎหมายไทย และไม่มีวัตถุประสงค์ในการแสวงหากำไร
โดยจะเปิดขายเพียงรุ่นอายุ 10 ปี ผลตอบแทน 3.00% ต่อปี (จ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน)
ส่วนวงเงินขั้นต่ำอยู่ที่ 1,000 บาท และไม่จำกัดวงเงินขั้นสูง (หน่วยละ 1,000 บาท) สำหรับช่องทางการจำหน่าย ได้แก่ เคาน์เตอร์ของธนาคารตัวแทนจำหน่ายทั้ง 6 แห่ง
ขณะที่วิธีการจัดสรรเป็นแบบ First-Come, First-Served
ทั้งนี้ การจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ให้กับประชาชนในช่วงที่ 1 (วันที่ 19-21 สิงหาคม 2567) จะใช้วิธีการจัดสรรพันธบัตรแบบ Small Lot First (การทยอยจัดสรรพันธบัตรเป็นรอบๆ เวียนจนครบผู้ซื้อทุกราย) โดยทวีคูณรอบละ 1,000 บาท ซึ่งลำดับในการจองซื้อก่อน-หลัง ไม่มีผลต่อการจัดสรร และในกรณีที่วงเงินพันธบัตรที่จะจัดสรรในรอบสุดท้ายไม่เพียงพอที่จะจัดสรรให้ผู้ซื้อทุกราย ระบบคอมพิวเตอร์จะจัดสรรพันธบัตรในรอบสุดท้ายด้วยวิธีการสุ่ม (Random) จนครบวงเงินจำหน่าย
โดยผู้จองซื้อจะทราบผลการจัดสรรพันธบัตรและได้รับเงินคืนกรณีที่ไม่ได้รับจัดสรรพันธบัตร หรือได้รับจัดสรรไม่ครบตามวงเงินจองซื้อ ในวันที่ 22 สิงหาคม 2567
ทั้งนี้ วงเงินที่จำหน่ายบนวอลเล็ต สบม. และผ่านธนาคารตัวแทนจำหน่ายจะแยกจากกัน โดยผู้ลงทุนสามารถลงทุนได้ทั้ง 2 ช่องทาง โดยประชาชนที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ในหนังสือชี้ชวนและเอกสารสรุปเงื่อนไขการจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ หรือสอบถามได้กับธนาคารตัวแทนจำหน่ายทั้ง 6 แห่ง