×

กลุ่มสมุนไพร ส.อ.ท. ชี้ โรงงานสมุนไพรเสี่ยงปิดตัว 500 แห่ง ชู 3 แนวทางแก้ไข รัฐช่วยหนุนให้โรงงานได้มาตรฐาน หาแหล่งเงินทุน และดึงท่องเที่ยวหนุน

24.07.2024
  • LOADING...

กลุ่มสมุนไพร ส.อ.ท. เปิดข้อมูลโรงงานสมุนไพรในประเทศ 500 แห่ง เสี่ยงถูกปิด เหตุไม่ผ่านมาตรฐาน GMP PIC/S ตามรอยโรงงานในประเทศไทยที่ปิดตัวลงเกือบ 2,000 แห่ง ด้านประธานกลุ่มอุตสาหกรรมสมุนไพรแนะแนวทางแก้ไข 4 ด้าน 

 

ดร.สิทธิชัย แดงประเสริฐ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมสมุนไพรในสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า สถานการณ์โรงงานในประเทศไทยปิดตัวลงเกือบ 2,000 แห่งในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา นับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2566 – มิถุนายน 2567 ส่งผลกระทบต่อภาคการผลิตเกือบ 1 ใน 4 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ทำให้แรงงานกว่า 51,500 คน สูญเสียงาน และวิกฤตดังกล่าวมีโอกาสลุกลามไปยังภาคการผลิตในอุตสาหกรรมสมุนไพรไทย 

 

จากการสำรวจพบว่า อุตสาหกรรมสมุนไพรไทยปัจจุบันยังประคับประคองตัวเองได้อย่างดี เนื่องจากผู้ประกอบการปรับตัวแบบ 360 องศา ทั้งการลงไปจับตลาดใหม่ๆ ที่เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยว พัฒนาแพ็กเกจจิ้งให้มีความโดดเด่น เหมาะแก่การสะสมและเป็นของฝาก 

 

อย่างไรก็ดี พบว่ามีโรงงานอุตสาหกรรมภาคสมุนไพรที่มีความเสี่ยงถูกปิดอยู่เช่นกัน โดยพบข้อมูลน่าตกใจว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีโรงงานผลิตสมุนไพรมากกว่า 1,000 แห่ง แต่มีโรงงานผลิตสมุนไพร 500 แห่งที่ยังไม่สามารถผ่านมาตรฐาน GMP PIC/S ซึ่งหากโรงงานสมุนไพรเหล่านี้ถูกปิดตัวลง ประเทศไทยจะสูญเสียโอกาสเพิ่มมูลค่าให้ผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย และเสียโอกาสเพิ่มศักยภาพเศรษฐกิจมหภาคของประเทศ 

 

อย่างไรก็ตาม ยังมีโอกาสรอดวิกฤตนี้ แต่หน่วยงานภาครัฐจำเป็นต้องเข้ามาช่วยเหลือเร่งด่วน มิฉะนั้นประเทศไทยจะสูญเสียโอกาสการสร้างฐานเศรษฐกิจมหภาคไปได้ โดยกลุ่มอุตสาหกรรมสมุนไพรใน ส.อ.ท. ได้เสนอแนวทางแก้ไขเพื่อปิดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นใน 3 มิติ ได้แก่

 

  1. หน่วยงานภาครัฐดำเนินการอบรม จัดหลักสูตร รวมถึงจัดหาแหล่งเงินทุน เพื่อช่วยให้โรงงานขนาดเล็กมีโอกาสปรับปรุงให้ได้มาตรฐาน GMP PIC/S

 

  1. หน่วยงานภาครัฐเป็นตัวกลางจับมือระหว่างโรงงานขนาดใหญ่ที่ได้มาตรฐาน GMP PIC/S ให้โรงงานขนาดเล็กเข้าใช้ทรัพยากรร่วมกันให้เกิดประโยชน์สูงสุด และเป็นการช่วยเหลือไม่ให้รายย่อยต้องลงทุนห้องแล็บที่ใช้เงินทุนค่อนข้างสูง

 

  1. สนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม โรงงานสมุนไพรเหล่านี้มีแหล่งความรู้ที่สามารถเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมได้ รวมถึงการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่น่าสนใจ

 

  1. สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพิ่ม Positive List เพื่อให้ผู้ประกอบการขึ้นทะเบียนสมุนไพรง่ายขึ้น

 

ทั้งนี้ มูลค่าตลาดสมุนไพรในปัจจุบันอยู่ที่ 52,104.3 ล้านบาท มีแนวโน้มการเติบโต 8% ต่อปี (ข้อมูลล่าสุดจาก ส.อ.ท.) ปัจจัยที่สนับสนุนให้ผลิตภัณฑ์สมุนไพรเติบโตมาจาก

 

  1. การเติบโตของการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ซึ่งมีกำลังซื้อสูงและใส่ใจสุขภาพมากขึ้น จึงนิยมเลือกใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติและสมุนไพร

 

  1. ความกังวลด้านสุขภาพ คนเริ่มกังวลเกี่ยวกับผลข้างเคียงของยาเคมี จึงหันมาใช้ผลิตภัณฑ์สมุนไพรมากขึ้น 

 

  1. สังคมสูงวัยและประชากรโลกมีอายุยืนยาวขึ้น ส่งผลให้เกิดโรคเรื้อรังต่างๆ มากขึ้น ผู้คนจึงมองหาผลิตภัณฑ์สมุนไพรมาช่วยดูแลสุขภาพและป้องกันโรค 

 

  1. กระแสการกลับสู่ธรรมชาติ ผู้คนเริ่มให้ความสนใจกับสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติมากขึ้น จึงนิยมใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติและสมุนไพร 

 

“หากทุกฝ่ายร่วมมือกันผลักดันให้การผลิตเป็นมาตรฐานเดียวกัน จะช่วยให้ผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยสามารถส่งออกได้มากกว่าปัจจุบันหลายเท่า” ดร.สิทธิชัย กล่าว 

 

ภาพ: Prathan Chorruangsak / Getty Images

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

X
Close Advertising