‘ทำดี ทำถึง’ คือความรู้สึกที่เกิดขึ้นหลังจากที่ได้เห็นทีเซอร์เพลง ROCKSTAR ซิงเกิลคัมแบ็กอย่างเป็นทางการและเป็นซิงเกิลแรกจาก LLOUD ของ ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ LISA BLACKPINK โดยทำงานร่วมกับ RCA Records ในเครือ Sony Music Entertainment
แต่เมื่อได้เห็นมิวสิกวิดีโอตัวเต็มของ ROCKSTARความยาว 2.48 นาทีที่ปล่อยออกมาเมื่อเช้าของวันที่ 28 มิถุนายน ตามเวลาประเทศไทย ก็ต้องเรียกว่างานนี้ ‘ทำดี ทำถึง ทำเกิน’ เพราะเป็นมิวสิกวิดีโอที่สร้างปรากฏการณ์อย่างต่อเนื่อง เริ่มตั้งแต่ยอดวิวทะลุล้านตั้งแต่ 27 นาทีแรก ก่อนจะตามมาด้วยยอด 10 ล้านวิวภายใน 5 ชั่วโมง และล่าสุดกับสถิติ 32 ล้านวิวใน 24 ชั่วโมงแรก ยังไม่นับการพูดถึงเรื่องนี้บน X ที่ติดเทรนด์และทะลุล้านในเวลาอันรวดเร็ว
ฟีดแบ็กเหล่านี้ส่วนหนึ่งมาจากแฟนคลับทั่วโลกที่รอติดตามผลงานของเธอ แต่อีกส่วนหนึ่งมาจากคุณภาพของผลงานที่ทำให้แม้แต่คนที่ไม่ใช่แฟนตัวยงหรือห่างไกลจากการฟังเพลง K-Pop ก็ยังให้ความสนใจและพูดถึงเรื่องนี้กันในวงกว้าง เห็นได้จากการแชร์ลิงก์บน Facebook จากผู้ใช้งานจำนวนมากในระยะเวลาใกล้ๆ กัน จน Meta บล็อกไม่ให้แชร์และล็อกเฟซบุ๊ก เนื่องจากเข้าข่ายว่าอาจเป็นสแปม
ปรากฏการณ์ที่ไม่ใช่ในเชิงตัวเลขก็น่าสนใจไม่แพ้กัน โดยเฉพาะในคอมมูนิตี้ของ LGBTQIA+ เพราะมีนักแสดง LGBTQIA+ ที่ร่วมแสดงในมิวสิกวิดีโอเพลงนี้ ทำให้ผลงานของเธอเป็นเหมือนการส่งข้อความสนับสนุนความหลากหลายทางเพศอย่างชัดเจน ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าจะเกิดขึ้นได้ยากหากยังเป็นงานเพลงจากต้นสังกัดเดิมอย่าง YG Entertainment
การเปิดตัวด้วยเพลงนี้ยิ่งตอกย้ำสถานะความเป็นซูเปอร์สตาร์ระดับโกลบอลของ LISA เพราะสื่อทั่วโลกต่างก็นำเสนอเกี่ยวกับเพลงนี้อย่างต่อเนื่องในหลากหลายแง่มุม ไม่ได้จำกัดแต่เฉพาะสื่อที่เกี่ยวกับวงการบันเทิงเท่านั้น อย่างเช่น Hypebeast เว็บไซต์เกี่ยวกับวัฒนธรรมและไลฟ์สไตล์ ที่เน้นเรื่องทีมทำเพลงที่ได้ San Homaee และ Ryan Tedder จาก OneRepublic มาโปรดิวซ์เพลงให้ จนได้เป็นเพลงเท่ๆ ที่ให้กลิ่นอายของฮิปฮอปสไตล์ญี่ปุ่นช่วงต้นยุค 2000 แต่ขณะเดียวกันก็มีความ R&B เจืออยู่ด้วย
แม้แต่สื่ออย่าง Vogue ของสิงคโปร์ ก็ยังทำคอนเทนต์เจาะเรื่องลุคของ LISA ในมิวสิกวิดีโอนี้โดยเฉพาะ และให้ข้อสรุปว่าทุกลุคของ LISA ที่เห็นในเพลงนี้ ‘Fierce, fresh, and looking every bit like a rockstar’ หรือเรียกว่า แบบใหม่แบบสับ เก็บดีเทลความเป็นร็อกสตาร์ได้ทุกเม็ด
โลเคชันที่ใช้ในการถ่ายทำก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่สร้างความฮือฮาได้ในวงกว้าง นับตั้งแต่ทีเซอร์เปิดตัวกับภาพถนนเยาวราชที่คุ้นเคยในแบบที่แปลกตา และโรงภาพยนตร์ออสการ์ เพชรบุรี ซอย 39 ที่ LISA พลิกความร้างให้กลายเป็นความเท่ ความปัง ขึ้นมาได้ ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่แค่คนไทยเท่านั้นที่ตื่นเต้น แต่สื่อต่างชาติก็พูดถึงเรื่องนี้ไม่น้อยไปกว่ากัน หลายสื่อปักหมุดให้กับสถานที่ต่างๆ ที่เห็นในมิวสิกวิดีโอแบบพร้อมให้คนต่างชาติมาเช็กอินได้ทันที เพราะไม่ได้พูดกว้างๆ แค่เยาวราชเท่านั้น แต่ยังระบุชื่อร้าน โรงภาพยนตร์ และประวัติของแต่ละสถานที่ จนเป็นไกด์ในการเที่ยวเยาวราชฉบับตามรอย ROCKSTARได้
สำหรับในญี่ปุ่น แม้สื่อหลักๆ จะไม่ได้นำเสนอเรื่องนี้มากนัก แต่ใน X ก็มีแฟนเพลงให้ความสนใจไม่น้อย รวมถึงอินฟลูเอ็นเซอร์และแอ็กเคานต์ของญี่ปุ่นที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับเพลง K-Pop โพสต์เกี่ยวกับเรื่องนี้กันอย่างคึกคักตั้งแต่วันที่เพลงถูกปล่อยออกมา เนื้อเพลงท่อนที่ร้องว่า “Lisa, can you teach me Japanese?’ I say はいはい.” ก็ดูเหมือนจะถูกใจแฟนเพลงชาวญี่ปุ่นเช่นกัน โดยดูจากข้อความใน X ที่เห็นว่าเป็นการตอบโต้กับวิธีคิดแบบเหมารวมของคนตะวันตกที่มีต่อคนเอเชีย มากกว่าที่จะมองว่าเป็นการล้อเลียนคนญี่ปุ่น
อินเดียเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ข่าวการปล่อยเพลงนี้ของ LISA ถือเป็นข่าวใหญ่ สื่อทั้งเจ้าใหญ่และเจ้าเล็กต่างก็นำเสนออัปเดตเกี่ยวกับมิวสิกวิดีโอหลังการปล่อยเพลง ไปจนถึงเรื่องกระแสตอบรับของเพลงนี้ในเกาหลีที่อาจจะสวนทางกับประเทศอื่นอีกหลายประเทศ
การเลือกที่จะสลัดกลิ่นอายเพลงสไตล์ K-Pop ทิ้ง ทำให้ ROCKSTAR อาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เพลงนี้ไม่ค่อยถูกจริตของแฟนเพลงในเกาหลีใต้ จนทำให้ความเห็นของชาวเน็ตที่นั่นค่อนข้างเผ็ดร้อน อย่างเช่น การมองว่าคุณภาพของเพลงนี้ยังห่างชั้นกับผลงานจาก YG Entertainment โดยมีคู่เทียบเป็นเพลง MONEY ที่ดูจะโดนใจแฟนเพลงเกาหลีใต้มากกว่า นอกจากนี้ในขณะที่แฟนเพลงไทยชื่นชมความ ‘อินเตอร์’ ของเพลง หลายคอมเมนต์ที่เกาหลีกลับเรียกเพลงนี้ว่าเป็น T-Pop
แต่อย่างน้อยที่สุด สิ่งหนึ่งที่แฟนเพลงไทย เกาหลีใต้ และอีกหลายประเทศ ดูจะเห็นตรงกันก็คือ ROCKSTARเป็นผลลัพธ์ที่มาจากความกล้าที่จะนำเสนอในแบบของเธอเอง แม้จะไม่ถูกใจแฟนเพลงบางกลุ่ม แต่ก็มีความเป็นตัวของตัวเองสูง
และความเป็นตัวเองนี่แหละที่เป็น ‘รสชาติ’ ที่ทำให้ ROCKSTAR กลายเป็นจานเรียกน้ำย่อยชั้นดี ถ้ามองว่านี่คือเมนูแรกที่ LISA เสิร์ฟให้กับแฟนเพลงในฐานะก้าวแรกหลังออกจาก YG Entertainment แม้หลายคนจะมองว่าความยาว 2.48 นาทีของมิวสิกวิดีโออาจจะยังไม่จุใจ และอยากเห็นเวอร์ชัน Dance Performance ที่จะได้เห็นการเต้นแบบเต็มอิ่มมากกว่านี้ แต่ 2.48 นาทีก็เป็นระยะเวลานานพอที่จะทำให้แฟนเพลงทั่วโลกตั้งตารอเมนคอร์สที่เชื่อว่าน่าจะเต็มอิ่มยิ่งกว่านี้
สมกับเป็นเมนูเรียกน้ำย่อยจานเล็กที่สร้างความประทับใจได้ดี โดยเฉพาะสำหรับแฟนเพลงไทยที่ลุ้นว่าศิลปินไทยที่ไปถึงระดับโลกคนนี้จะซ่อนรสชาติแบบ ‘ไทยๆ’ เอาไว้ในฟูลคอร์สที่เธอกำหนดรสชาติและเมนูเองอย่างไร
อ้างอิง:
