นักวิจัยเผยผลการทดสอบวัคซีนที่อาจช่วยชีวิตคนเป็นโรคมะเร็งสมองได้มหาศาล และจากการทดสอบกับผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งสมอง (Glioblastoma) ผู้เข้าร่วมการทำการศึกษาค้นพบว่า พวกเขามีชีวิตที่ยืนยาวกว่าผู้ที่ทำการรักษาแบบปกติถึง 2 เท่า
วัคซีนดังกล่าวเป็นวัคซีนที่ทำงานด้วยการใช้เซลล์ภูมิคุ้มกันในร่างกายมาต่อต้านมะเร็ง ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้นั้นถือเป็นความหวังน่าทึ่ง องค์กรการกุศลด้านมะเร็งเผยถึงผลที่ได้
การรักษาทั่วไปที่ถือเป็นมาตรฐานรักษาผู้ป่วยมะเร็งสมอง ซึ่งเป็นโรคที่มีความร้ายแรงที่สุดสำหรับโรคเนื้องอกในสมองในผู้ใหญ่ ส่วนมากจะทำโดยการผ่าตัดเอาเนื้องอกออก จากนั้นจึงทำการฉายรังสี ต่อด้วยเคมีบำบัด ถึงกระนั้นนับเป็นเรื่องยากในการรักษาผู้ป่วยในช่วง 15-17 เดือนหลังการผ่าตัดไปแล้ว
ในระยะการทดลองจำนวน 3 ครั้งในผู้ป่วยจำนวน 331 คน จากสหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา แคนาดา และเยอรมนี มีผู้ได้รับวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกัน DCVax ร่วมไปกับการรักษาทั่วไปจำนวน 232 คน และคนที่เหลือได้รับยาหลอก (Placebo) ร่วมกับการรักษาปกติ
วัคซีนนี้สร้างจากเซลล์ภูมิคุ้มกัน (หรือที่รู้จักกันว่า Dendritic cells) ที่ดึงจากร่างกายผู้ป่วย โดยนำมาผสานกับตัวอย่างของเนื้องอกในร่างกาย และเมื่อวัคซีนถูกฉีดใส่กลับเข้าไปในร่างกายผู้ป่วย ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายจะออกฤทธิ์และรับรู้ถึงเซลล์มะเร็ง โดยเข้าจัดการกับเนื้อร้ายนั้น
Photo: Profile / Reuters
ผลการทดสอบขั้นต้นหลังจากทำการศึกษาเป็นเวลา 11 ปีที่ถูกตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ชั้นนำอย่าง Journal of Translational Medicine ที่นำงานวิจัยต่างๆ มาแปลและรวบรวมระบุว่า ค้นพบว่ามีผู้ป่วยที่เข้าทำการทดสอบมีชีวิตอยู่ได้นานกว่า 23 เดือนโดยเฉลี่ยนับจากหลังการผ่าตัด และมีจำนวน 100 คนที่มีชีวิตอยู่ถึง 40.5 เดือนขณะทีมทำการวิเคราะห์งานวิจัยชิ้นนี้
เพราะผลการศึกษานี้ยังไม่มีการสรุปแน่ชัด จึงยังไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับผู้ที่ได้รับวัคซีนดังกล่าวและผู้ที่ได้รับยาหลอก ทำให้ยังต้องรอการสรุปที่ชัดเจนถึงปัจจัยร่วมต่างๆ เมื่อการทดลองเสร็จสิ้น
ในขณะที่ผู้รอดชีวิตที่มีอายุยืนยาวที่สุดนั้นยังคงมีชีวิตอยู่ 7 ปีหลังได้รับการผ่าตัด นอกจากนั้นคณะผู้เขียนงานวิจัยนี้ยังเผยว่า “เป็นที่แน่ชัดว่าผู้ป่วยที่ผ่านการทดลองที่ยังคงดำเนินชีวิตต่อไปได้หลังจากได้รับการวินิจฉัยมีแนวโน้มที่จะมีอายุที่ยืนนานอย่างน่าทึ่ง”
คียูมาร์ส อัชกาน (Keyoumars Ashkan) ศาสตราจารย์ด้านประสาทศัลยศาสตร์แห่งโรงพยาบาลวิทยาลัยคิงส์คอลเลจ (King’s College Hospital) ในกรุงลอนดอน หัวหน้าคณะสังเกตการณ์ฝั่งยุโรปในการศึกษานี้เผยว่า ผลการทดลองนี้ “มอบความหวังให้กับทั้งผู้ป่วยและแพทย์ที่ต้องต่อสู้กับการรักษาโรคร้าย” เขาเสริมอีกว่า “แม้ข้อสรุปแน่ชัดยังต้องรอจนกว่ารายละเอียดทั้งหมดจะถูกนำมาเปิดเผย แต่วารสารที่ตีพิมพ์ออกมาล่าสุดบอกเป็นนัยถึงหนทางใหม่ในการรักษาผู้ป่วยมะเร็งสมอง”
ในขณะที่ ดร.เดวิด เจนคินสัน (Dr.David Jenkinson) หัวหน้าทีมเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการด้านวิทยาศาสตร์เพื่อการกุศลสำหรับโรคเนื้องอกสมอง (Brain Tumour Charity) กล่าวว่า “การมองโลกในด้านบวกอย่างเหมาะสมเป็นเรื่องน่ายินดีโดยเฉพาะเมื่อมาถึงโรคร้ายที่ผู้คนทนทุกข์ทรมานกันมายาวนาน” เขายังกล่าวอีกว่า “ผลลัพธ์ที่ได้เหล่านี้มอบความหวังให้กับผู้ป่วยได้อย่างน่าทึ่ง โดยเฉพาะเมื่อตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมาถือว่าริบหรี่มาก แต่ถึงอย่างไรยังต้องรอผลวิเคราะห์แน่ชัด รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมเสียก่อนเพื่อที่จะยืนยันว่าการรักษาด้วยระบบภูมิคุ้มกันนี้จะสามารถต้านมะเร็งร้ายได้”
ส่วน แคท ชาร์ลส์ (Kat Charles) ผู้ป่วยที่ต่อสู้กับโรคมะเร็งสมองที่แพทย์เคยคาดการณ์ว่าเธอจะมีชีวิตอยู่เพียง 3 เดือนเท่านั้นในปี 2014 หลังจากแพทย์หมดหนทางรักษาเผยว่า เธอและสามีระดมทุนเพื่อให้เธอรับการทดลองฉีดวัคซีน DCVax และผลการสแกน MRI หลังจากนั้นกลับแสดงว่าไร้วี่แววของเนื้องอกในสมอง “ถ้าไม่มีการรักษานี้ ผมคงไม่มีภรรยา และไม่มีแม่ของลูกของเราเช่นทุกวันนี้” แคทยังคงได้รับการฉีดวัคซีนเป็นประจำ โดยเธอเดินทางเข้าลอนดอนด้วยรถไฟ เพื่อให้แพทย์ฉีดวัคซีนที่แขนสองข้าง จากนั้นจึงเดินทางกลับบ้านได้โดยไม่มีผลข้างเคียงใดๆ
“เราต้องยอมรับในความผิดหวัง แต่จงอย่าสูญสิ้นในความหวัง” มาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์ กล่าวไว้
Photo: Shutterstock
อ้างอิง:
- วันที่ 8 มิถุนายนของทุกปีถือเป็นวัน World Brain Tumor Day เพื่อให้ทั่วโลกตระหนักถึงอันตรายของโรค เพื่อดูแล ป้องกัน สร้างความเข้าใจ และหมั่นสังเกตความผิดปกติในร่างกายทั้งของตนและคนใกล้ตัว
