วันนี้ (27 พฤษภาคม) เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล โดยมีรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม เช่น พิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง, ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์, เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย และ ดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นต้น
โดยนายกฯ กล่าวก่อนการประชุมว่า เศรษฐกิจวันนี้ ตามที่ทุกคนทราบดีว่าตัวเลขประมาณการเศรษฐกิจที่ออกมาต่ำกว่าประมาณการไว้ค่อนข้างมาก แต่ยังเรียกว่าสถานการณ์กำลังเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเทคนิค (Technical Recession) เนื่องจากยังมีตัวเลขด้านการท่องเที่ยวและอื่นๆ อีก 2-3 อย่างช่วยแบกไว้ โดยที่เครื่องยนต์เดินหน้าได้ไม่เต็มที่ เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจไม่ค่อยดีมาอย่างยาวนานและต่อเนื่อง ได้รับปัจจัยจากปัญหาเศรษฐกิจโลกที่เติบโตช้า กำลังซื้ออ่อนตัว โดยเฉพาะเศรษฐกิจฐานราก รวมถึงสถานการณ์ภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลง และโครงสร้างสังคมผู้สูงวัย หนี้ครัวเรือน และหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL)
นายกฯ กล่าวว่า ด้วยการปรับโครงสร้างและรากฐานเศรษฐกิจภาครัฐสามารถที่จะดำเนินการได้ทันที เช่น การเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐ การกระตุ้นกำลังซื้อ การท่องเที่ยว ดังนั้นวันนี้จึงต้องหารือถึงรายละเอียดต่างๆ เพื่อทำให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้จริงและรวดเร็ว รวมความคิดหาทางออกทำให้เศรษฐกิจโตขึ้นได้ตามศักยภาพ โดยขอให้ทุกคนใช้เวทีนี้แสดงความคิดเห็นอย่างเต็มที่ เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ทำได้หรือทำไม่ได้ ก็อยากให้ใช้เวทีนี้ในการพูดคุย
ด้านพิชัยกล่าวเสนอในที่ประชุมว่า วันนี้ได้เตรียมประเด็นหารือเศรษฐกิจ โดยได้สรุปมาเป็นเอกสารแยกเป็นข้อๆ และสาเหตุปัญหาที่เกิดขึ้นจะมีแนวทางแก้ไขอย่างไรบ้าง พร้อมกับเอกสารชุดที่สองที่เป็นข้อมูลประกอบเอกสารชุดที่หนึ่ง เพื่อที่จะได้อธิบายรายละเอียดได้ชัดเจนขึ้น
สำหรับการเรียกประชุม ครม. เศรษฐกิจครั้งนี้ เป็นผลพวงมาจากสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้แถลงภาวะเศรษฐกิจไตรมาส 1/67 ของประเทศไทยที่ขยายตัวเพียง 1.5% ซึ่งต่ำที่สุดในประเทศอาเซียน นายกฯ จึงเรียกรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือถึงมาตรการและเสนอไอเดียต่างๆ ร่วมกัน
