สินค้าลักชัวรีอย่างกระเป๋าและน้ำหอมของ LVMH ที่เป็นเจ้าของ Louis Vuitton, Dior, CELINE ฯลฯ มีการส่งออกแซงหน้าสินค้าหมวดหมู่เกษตรกรรมของประเทศฝรั่งเศส นั่นคือไวน์และชีสกามองแบร์รวมกันทั้งหมด ตอกย้ำความสำคัญของโปรดักต์หมวดหมู่ลักชัวรีในดุลการค้าของประเทศได้เป็นอย่างดี
Financial Times รายงานผลการศึกษาจากบริษัทที่ปรึกษาแห่ง LVMH อย่าง Asterès ว่า ประเทศฝรั่งเศสมีการส่งออกสินค้าประเภทลักชัวรีถึง 4% ในสินค้าโดยรวมทั้งหมดเมื่อปีที่แล้ว โดยมีรายได้ทั้งหมดอยู่ที่ 2.35 แสนล้านยูโร ซึ่งถ้าหากพูดถึงสินค้าลักชัวรีในประเทศฝรั่งเศสนั้น LVMH ก็เป็นผู้ครองตลาดที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปอยู่แล้ว อีกทั้งขณะนี้ซีอีโออย่าง Bernard Arnault ยังเป็นบุคคลผู้ร่ำรวยที่สุดในโลกอีกด้วย
การที่ LVMH มียอดขายทั่วโลกสูงกว่าสินค้าหมวดหมู่เกษตรกรรมของฝรั่งเศสทั้งหมดนั้น ชี้ให้เห็นถึงเศรษฐกิจโลกและความนิยมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค ที่เห็นได้ชัดว่าปัจจุบันผู้คนอยากเป็นเจ้าของสินค้าลักชัวรีหรือโปรดักต์แฟชั่นระดับไฮเอนด์ และมีความวัตถุนิยมกันมากขึ้น สินค้าหมวดหมู่ลักชัวรีจึงกลายเป็นองค์ประกอบสำคัญของ GDP ในฝรั่งเศสไปโดยปริยาย
แม้ว่า LVMH จะมียอดขายลดลง 2% ในไตรมาสแรกของปีนี้ แต่ทางบริษัทก็ไม่มีแพลนที่จะลดราคาสินค้าแบรนด์ในเครือแต่อย่างใด อีกทั้งจะยังคงเพิ่มราคาโปรดักต์ตัวสำคัญต่อไปอีก โดยมีความมั่นใจว่ายอดขายจะกลับมาพุ่งสูงอีกครั้งหลังผ่านช่วงแห่งความซบเซา
ภาพ: Louis Vuitton
อ้างอิง: