รัฐบาลสหรัฐฯ ยังคาดหวังว่าการประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กับคิมจองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ จะดำเนินไปตามกำหนดการเดิมในวันที่ 12 มิถุนายนนี้ ถึงแม้เกาหลีเหนือจะขู่ยกเลิกการประชุม เนื่องจากไม่พอใจที่สหรัฐฯ พยายามกดดันให้ยุติโครงการนิวเคลียร์ หลังที่ปรึกษาของทรัมป์ได้แสดงความเห็นว่า เกาหลีเหนืออาจต้องยึดโมเดลลิเบียในการปลดอาวุธนิวเคลียร์ แต่เกาหลีเหนือทราบดีถึงจุดจบของมูอัมมาร์ กัดดาฟี และระบอบเผด็จการของเขา แม้ว่าเขาจะยอมยุติโครงการนิวเคลียร์ตามที่ชาติตะวันตกต้องการแล้วก็ตาม
ซาราห์ แซนเดอร์ส โฆษกทำเนียบขาว แถลงว่าประธานาธิบดีทรัมป์ยังคงเตรียมพร้อมสำหรับการประชุมกับคิมจองอึนที่ประเทศสิงคโปร์ในเดือนหน้า ถึงแม้เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้า เกาหลีเหนือจะออกแถลงการณ์ขู่ยกเลิกการประชุม หากวอชิงตันยังคงบีบคั้นเปียงยางจนจนมุมในประเด็นการปลดอาวุธนิวเคลียร์บนคาบสมุทร
“หากซัมมิตไม่เกิดขึ้น สหรัฐฯ จะดำเนินนโยบายกดดันเกาหลีเหนือต่อไป” แซนเดอร์สกล่าว
ขณะที่โดนัลด์ ทรัมป์ ตอบคำถามผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับการประชุมว่า “เราจะต้องรอดูกันต่อไป” พร้อมกับยืนยันว่าสหรัฐฯ ยังคงมีจุดยืนที่ชัดเจนเกี่ยวกับการปลดอาวุธนิวเคลียร์
ความขุ่นเคืองของเกาหลีเหนือเป็นผลมาจากการที่ จอห์น โบลตัน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าเกาหลีเหนืออาจต้องใช้ ‘โมเดลลิเบีย’ ในการปลดอาวุธนิวเคลียร์ โดยที่เปิดทางให้สหรัฐฯ เข้าไปตรวจสอบได้ คำพูดนี้ทำให้เกาหลีเหนือไม่พอใจ เนื่องจากพวกเขาเคยเห็นชะตากรรมของมูอัมมาร์ กัดดาฟี อดีตผู้นำเผด็จการของลิเบียมาแล้ว แม้ว่ากัดดาฟีจะยอมละทิ้งโครงการนิวเคลียร์ แต่สุดท้ายเขาก็ยังถูกฝ่ายกบฏที่หนุนหลังโดยชาติตะวันตกสังหาร พร้อมกับระบอบที่ถูกโค่นล้มและปัญหาขัดแย้งที่ตามมาไม่รู้จบ
ด้าน จอห์น โบลตัน ให้สัมภาษณ์กับ Fox News Radio ในเวลาต่อมาว่า “เราต่างก็คาดหวังที่จะให้การประชุมเกิดขึ้นตามกำหนดการเดิม เราพยายามมองในแง่บวกและมองสภาพความเป็นจริงด้วย”
อ้างอิง: