วันนี้ (29 กุมภาพันธ์) สุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่ ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แสดงท่าทีไม่ยอมรับแผนที่ของกรมแผนที่ทหาร และเตรียมดำเนินการฟ้องร้องต่อศาล
สุทินกล่าวว่า เรื่องนี้เป็นไปได้ เพราะที่ผ่านมามีปัญหามากในเรื่องที่ดินของประเทศไทยที่ต่างฝ่ายต่างถือคนละฉบับ วันนี้จึงเกิดปัญหาขึ้น ซึ่งปัญหาแบบนี้ต้องหาแผนที่สักฉบับเป็นตัวหลัก เรียกว่า One Map เมื่อเป็นแผนที่เดียวก็ต้องยอมรับว่าอะไรอยู่ตรงไหน ถ้าไม่ยอมรับก็มีกระบวนการอุทธรณ์ ซึ่งตนคิดว่ายุติที่ One Map ดีที่สุด
ส่วนที่ขณะนี้กรมแผนที่ทหารถูกดึงไปเป็นคู่ขัดแย้งกับ 2 องค์กร คือ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ซึ่งดูคล้ายว่าจะไปเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง สุทินระบุว่า ส่วนตัวคิดว่าเกิดขึ้นได้กับทุกกรณี ที่คนไปตัดสินจะถูกกล่าวหาได้แม้แต่ศาล จึงมีกฎหมายไม่ให้วิจารณ์ศาล
อย่างไรก็ตาม จะมีกระบวนการอุทธรณ์เรื่องนี้ สุดท้ายก็จะยุติได้ พร้อมยืนยันว่า One Map ไม่ได้ยึดฝั่งใดฝั่งหนึ่ง ซึ่งจะยึดจากข้อมูลในอดีตและปัจจุบัน
สุทินกล่าวยืนยันว่า รัฐบาลต้องยึด One Map ถ้าไม่มีอะไรให้ยึดสักอย่างก็ไม่จบ
กระแสข่าวปรับเปลี่ยนคณะรัฐมนตรี
เมื่อถามถึงกระแสการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีรายงานว่าจะปรับย้ายให้สุทินไปดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ สุทินกล่าวว่า เรื่องการปรับ ครม. เป็นการพูดถึงกันมานาน ซึ่งเป็นธรรมชาติของประเทศไทยที่จะมีข่าวการปรับ ครม. ทันทีตั้งแต่จัดตั้งรัฐบาล ในส่วนตำแหน่งของตนเอง คิดว่าเป็นเรื่องของการคาดหมาย ซึ่งก็สามารถคาดไปได้ต่างๆ นานา ตนเองไม่ได้คิดอะไรมากในเรื่องนี้
เมื่อถามว่า ขณะนี้มีการส่งสัญญาณอะไรมาหรือไม่ สุทินระบุว่า มีแต่สัญญาณบวก ไม่มีสัญญาณลบ และเป็นสัญญาณที่ตนเองมีกำลังใจทำงาน และสัญญาณที่เดินหน้าได้ตามปกติ เมื่อถามย้ำว่า จะอยู่ในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเหมือนเดิมใช่หรือไม่ สุทินยิ้ม พร้อมย้ำว่ายังเป็นสัญญาณบวก
เมื่อถามว่า กรณีที่ ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า การปรับ ครม. ใช้ผลงานเป็นตัวชี้วัด สุทินกล่าวว่า แน่นอน ผลงานจะเป็นเครื่องชี้วัดของทุกคน