วันนี้ (16 กุมภาพันธ์) ความคืบหน้ากรณีที่มีการเผยแพร่เอกสารซึ่งเป็นรายละเอียดของการสอบสวนคดีเว็บไซต์พนัน ซึ่งเกี่ยวกับเครือข่ายมินนี่และเจ้าหน้าที่ตำรวจ 8 นายที่เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และต่อมามีการระบุว่า เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมถึงตำรวจชั้นนายพลและพวกอีก 5 คน ซึ่งมีรายงานว่าอาจมีชื่อ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ด้วย
พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ระบบกฎหมายไทยเป็นระบบกล่าวหา ตราบใดที่ศาลยังไม่พิพากษาว่ามีความผิดก็ยังไม่ถือว่าเป็นผู้กระทำความผิด ดังนั้นต้องต่อสู้ข้อเท็จจริงกันในชั้นศาล
เรื่องนี้ตนไม่ได้หนักใจอะไร เพราะ 2 ปีที่ถูกย้ายไปประจำสำนักนายกรัฐมนตรีถูกตรวจสอบมาอย่างหนัก แทบจะทุกรูขุมขน แต่ก็ไม่ได้พบอะไรจนได้รับแต่งตั้งให้กลับมาดำรงตำแหน่งเป็นผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และปัจจุบันเป็นรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ดังนั้นเชื่อว่าตนคงจะไม่ตายน้ำตื้นอย่างแน่นอน
พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ กล่าวยอมรับว่า 1 ใน 8 ผู้ต้องหาซึ่งเป็นลูกน้องคนสนิทตนเองได้ยื่นฟ้องต่อศาลแล้ว โดยมีการเอาผิดตั้งแต่ระดับพลตำรวจเอกไปจนถึงชุดพนักงานสอบสวนที่ทำคดีนี้เกือบ 200 คน หลังพบว่าให้พนักงานสอบสวนลงชื่อเป็นจำนวนมากแต่มีคนทำคดีไม่กี่คนเท่านั้น ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นคนที่ลงชื่อก็จะได้รับความเดือดร้อนแน่นอน
เรื่องนี้เป็นเรื่องของกรรม ใครทำอะไรไว้ก็ต้องได้รับผลเช่นนั้น โดยส่วนตัวแล้วไม่ได้รู้สึกหนักใจ ความจริงก็คือความจริง ส่วนใครไปบิดเบือนอะไรไว้ก็ต้องยอมรับในสิ่งที่ทำลงไป สิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้อาจจะเป็นเรื่องของความขัดแย้งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) บ้าง แต่เท่าที่ดูข้อมูลทั้งหมดแล้วมันเป็นข้อมูลในเรื่องเก่าตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคม 2566 ซึ่งวันนี้สำนวนถูกส่งไปทางอัยการหมดแล้ว เมื่อส่งไปแล้วก็ตัดอำนาจพนักงานสอบสวนไปหมดแล้ว ฉะนั้นในวันนี้ก็ไม่มีอะไรที่ต้องไปกังวล
“วันนี้เรื่องทั้งหมดเกิดจากเว็บพนัน และตำรวจคนไหนทำเว็บพนันบ้างนักข่าวก็รู้ มันมีตำรวจอยู่แค่กลุ่มเดียวเท่านั้นที่รับเงินเว็บพนัน แต่ผมนั้นไม่ใช่ ดังนั้นเมื่อความจริงมันมีหนึ่งเดียว เมื่อผมไม่ได้รับเงินเว็บพนันเงิน ทุกอย่างผมก็ดีแคลร์ได้หมด อันนี้มันเป็นเรื่องเก่า มันเป็นนิทานที่ทำกันมา 8-9 เดือนแล้ว ก็เอามาวนเล่าซ้ำไปซ้ำมาทำให้ผมเสียหาย และถ้าหากมีการแจ้งข้อกล่าวหามาก็ต้องไปต่อสู้กันในชั้นศาล ต้องจำไว้ว่าหลักกฎหมายในประเทศไทยเป็นระบบกฎหมายการกล่าวหา เมื่อกล่าวหาก็ต้องไปต่อสู้แจงข้อเท็จจริงในชั้นศาล” พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ กล่าว
พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า ตนไม่เคยทิ้งลูกน้อง และเชื่อว่าลูกน้องทั้งหมด 8 คนทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพราะถ้าผมทิ้งลูกน้อง อีก 7-8 ปีที่ผมเหลืออยู่ใครจะทำงานกับผม