วันนี้ (13 กุมภาพันธ์) ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการที่หลายฝ่ายออกมาขอให้ทบทวนประกาศเผยแพร่กฎกระทรวงสาธารณสุข กำหนดอัตราการครอบครองยาเสพติดประเภทหนึ่ง โดยกำหนดให้ผู้ที่มียาบ้าในครอบครองไม่เกิน 5 เม็ดถือเป็นผู้เสพ พร้อมตั้งคำถามว่าใช้อะไรคิด ว่า กฎกระทรวงดังกล่าวประกาศใช้เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และมีผลบังคับใช้ในวันที่ 10 กุมภาพันธ์
ส่วนที่มีการตั้งคำถามว่าจะให้ทบทวน ตนอยากจะถามกลับว่า คนที่ตั้งคำถามว่าด้วยเหตุผลอะไร เพราะก่อนที่จะออกมาเป็นกฎ เราทำร่างกฎกระทรวงที่ผ่านการรับฟังความคิดเห็นและทำประชาพิจารณ์ตามบทบัญญัติทางกฎหมายกรอบเวลา 15 วัน และเปิดให้ทุกฝ่ายได้แสดงความคิดเห็น ก่อนจะนำความคิดเห็นต่างๆ ทั้งการกำหนดปริมาณยาบ้า 5 เม็ดเท่ากับผู้เสพ ซึ่งเป็นเสียงส่วนใหญ่ จากนั้นนำร่างและข้อมูลเสนอต่อคณะรัฐมนตรี และผ่านการเห็นชอบเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2566 หลังจากคณะรัฐมนตรีเห็นชอบก็ส่งให้กฤษฎีกาตรวจ ว่าเป็นไปตามแบบแผนการออกกฎหมายหรือไม่
นพ.ชลน่าน กล่าวอีกว่า การประกาศกฎดังกล่าวเพิ่งประกาศใช้ได้เพียง 3 วัน แต่กลับถูกตั้งคำถามว่าจะทบทวนหรือไม่ จึงอยากถามกลับว่า ใคร กลุ่มไหน เป็นคนตั้งคำถาม รวมไปถึงต้องดูว่าผลบังคับใช้นั้นเป็นอย่างไร ประชาชนและประเทศชาติได้ประโยชน์อย่างไร เพราะนโยบายด้านยาเสพติด นายกรัฐมนตรีได้แถลงต่อรัฐสภาเรื่องการป้องกันปราบปราม บำบัดและฟื้นฟู ต้องทำอย่างเข้มข้นในทุกมิติ ส่วนกรณีการบำบัดฟื้นฟูผู้เสพเข้ากับผู้ป่วย เราต้องการคืนคนที่หลงผิดและคนที่ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับการค้ายาเสพติดคืนให้สังคมด้วยการบำบัด ซึ่งหากต้องการทบทวนก็ต้องดูด้วยเหตุด้วยผล
ส่วนที่ พล.ต.อ. เรวัช กลิ่นเกษร อดีตข้าราชการตำรวจ ออกมาตำหนิถึงการออกประกาศดังกล่าวว่าเอาอะไรคิด นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เป็นความเห็นของแต่ละคน แต่อยากให้เข้าใจว่าการออกประกาศกฎกระทรวงได้ก็ต้องมีกฎหมายแม่บังคับใช้ ซึ่งกฎกระทรวงเรื่องยาเสพติดให้โทษตามมาตรา 107 ซึ่งระบุไว้ถึง 2 วรรค ย้ำว่า วรรคแรกห้ามครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เป็นยาเสพติดร้ายแรงจำพวกเฮโรอีน ประเภท 2 มอร์ฟีน และประเภท 5 จำพวกฝิ่น เห็ดขี้ควาย และกัญชา ซึ่งการครอบครองยาเสพติดทุกประเภทก็ถือว่าผิดกฎหมายอยู่แล้ว แต่วรรค 2 ได้กำหนดไว้ว่า หากครอบครองจำนวนน้อยให้ถือว่าเป็นผู้เสพ ถือเป็นผู้ป่วยที่ต้องได้รับการบำบัด
การกำหนดข้อจำกัดของยาบ้า กฎกระทรวงต้องการสื่อว่าไม่ได้จำกัดว่าผู้เสพจะไม่ใช่ผู้ผิด แต่ต้องการดึงคนเหล่านี้ออกจากผู้ค้า เนื่องจากพฤติกรรมผู้ค้ารายย่อยมาจากการเสพยาเสพติดและพลิกผันสู่การเป็นผู้ค้า ซึ่งรัฐบาลต้องการตัดวงจรการค้ารายย่อย ดังนั้นตนอยากย้ำว่า กฎกระทรวงผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการทุกภาคส่วน เช่น ป.ป.ส. ด้านยุติธรรม กระทรวงสาธารณสุข การแพทย์ รวมทั้งนักสิทธิมนุษยชน
“สุดท้ายข้อสรุปออกมาที่ 5 เม็ดครับ ถามว่าเอาสมองส่วนไหนคิด ก็สมองคนเหล่านี้แหละครับที่ช่วยกันคิด” นพ.ชลน่าน กล่าว
ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายกังวลว่า การกำหนดจำนวน 5 เม็ดเท่ากับผู้เสพที่ต้องเข้าสู่การบำบัด นพ.ชลน่าน กล่าวยืนยันว่า รัฐบาลเตรียมพร้อมสถานบำบัดไว้ทั้งหมดแล้ว โดยอาศัยโรงพยาบาลประจำจังหวัดและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) โดยจะมีนักจิตวิทยาและฝึกอาชีพด้วย และเมื่อผ่านขั้นตอนการบำบัดแล้ว จะมีการออกใบรับรองทางการแพทย์ ซึ่งคนเหล่านี้จึงได้รับการยกเว้นเข้ารับโทษตามกฎหมาย
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า แม้กฎกระทรวงจะกำหนดว่าผู้ครอบครองยาบ้า 5 เม็ดเท่ากับผู้เสพ แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่มีความผิด เพราะทั้งผู้เสพและผู้ครอบครองถือว่าเป็นผู้กระทำความผิดทางกฎหมาย ส่วนข้อเสนอกัญชา-กัญชงนั้นได้รับรายงานจากกระทรวงยุติธรรมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะต้องผ่านความเห็นชอบจากทาง ป.ป.ส. ก่อน