วันนี้ (30 มกราคม) สุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีใบสำคัญทางการทหาร (ใบ สด.43) ไม่พบชื่อของ จิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ สส. ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล แต่เป็นชื่อนวรินทร์นั้นว่า กองทัพบกตรวจสอบคาดว่าวันนี้กองทัพบกจะรายงานมาที่ตน ซึ่งเป็นเรื่องของเอกสาร ไม่มีใครบิดเบือนได้ สุดท้ายจะจบที่ความจริง
ส่วนเคยมีลักษณะนี้หรือไม่ ที่มีการเปลี่ยนชื่อแล้วไม่แจ้ง สุทินกล่าวว่า ถ้ามีการเปลี่ยนชื่อจะต้องแจ้งทะเบียนทุกทะเบียนที่เกี่ยวข้องกับราชการ เช่น ใบวุฒิบัตร ส่วนจะมีโอกาสเป็นเอกสารปลอมหรือไม่จะต้องให้ความเป็นธรรม และขอเวลาตรวจสอบสักระยะ
คาด 1 สัปดาห์รู้ผล
สุทินยังกล่าวถึงการให้สัมภาษณ์ของจิรัฏฐ์ว่าการตรวจสอบเรื่องนี้สังคมได้อะไร คนเป็นนักการเมืองหรือไม่ใช่นักการเมืองถ้าสังคมคลางแคลงใจมันต้องเคลียร์ให้หมด ไม่ใช่พอเกิดประเด็นขึ้นมาแล้วเราไม่ต้องทำอะไรต่อ มันไม่ใช่ ต้องมีคำตอบกับสังคม โดยเฉพาะคนที่เป็นนักการเมือง และเป็นคนที่ไปตรวจสอบคนอื่นในเรื่องนี้ด้วย ทั้งนี้ มองว่าเรื่องนี้ใช้เวลาไม่นานเพียงแค่สัปดาห์เดียวก็น่าจะหาข้อสรุปได้
ส่วนที่จิรัฏฐ์มองว่าถูกกองทัพปิดปากในเรื่องนี้เพราะออกมาพูดเรื่องทุจริตในกองทัพ สุทินกล่าวว่า ไม่ปิดหรอก จะกลัวทำไม เป็นการตรวจสอบกันไปมา เราต้องมั่นใจในตัวเรา ถ้าเขามั่นใจก็ปิดไม่ได้ และยืนยันว่าไม่ใช่การกลั่นแกล้ง เรื่องนี้สมมติว่ามีคนไปยื่นร้องเรียนแล้วกองทัพไม่ทำอะไร กองทัพก็จะโดนตั้งคำถามจากสังคม
ไม่ขัดตรวจสอบบ้านพัก พล.อ. ประยุทธ์ แต่ต้องเหมาะสม
สุทินยังกล่าวถึงกรณีจิรัฏฐ์ที่ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าจะไปตรวจสอบบ้านพัก พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี ว่าแม้จะเป็นองคมนตรีก็สามารถตรวจสอบได้ ทุกคนตรวจสอบได้หมด แต่ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม คนไทยทุกคนทำอะไร ถ้าไม่ถูกต้อง ไม่ชัดเจน ตรวจสอบกันได้หมด พร้อมกันนี้ย้ำว่าการตรวจสอบบ้านพัก พล.อ. ประยุทธ์ ในฐานะองคมนตรีทำได้ แต่คนไทยจะมีระดับความเคารพซึ่งกันและกันในเรื่องของผู้หลักผู้ใหญ่ มันเป็นเรื่องของความเหมาะสม ถ้าเป็นเรื่องของกฎหมายทำได้หมด
ส่วนถ้าจิรัฏฐ์จะเข้าตรวจสอบบ้านพัก พล.อ. ประยุทธ์ จริง กองทัพจะอนุญาตหรือไม่ สุทินกล่าวว่า มันไม่เกี่ยวกับกองทัพ แต่ก็พร้อมอนุญาต แต่บางครั้งบ้านเมืองเราก็มีผู้หลักผู้ใหญ่ที่เป็นที่เคารพนับถือกัน อะไรที่เหมาะสมก็ควรทำตรงนั้น