มีอยู่จริง! ตัวยาที่บรรเทาได้ทุกอาการผสานความอเนกประสงค์ สามารถ #ใช้ทุกเมื่อเพื่อบรรเทา จะบรรเทาอาการปวดเส้น ปวดเอ็น ปวดหัว ปวดขมับ เป็นหวัด คัดจมูก แค่หยิบ ‘ยาหม่องตราเสือ’ หรือ Tiger Balm มาทา มาดม อาการต่างๆ ที่ว่ามาก็บรรเทา จนกลายเป็นยาสามัญประจำบ้านที่อยู่เคียงคู่คนไทยมากว่า 100 ปี
พอเห็นกันมาตั้งแต่รุ่นปู่รุ่นย่าก็พานเข้าใจไปว่ายาหม่องตราเสือเป็นแบรนด์คนไทย หารู้ไม่ต้นกำเนิดจริงๆ อยู่ที่ประเทศเมียนมาและถูกสร้างมาจากฝีมือของ ‘คนจีน’
จาก ‘ยาประจำราชสำนัก’ สู่ ‘ยาสามัญประจำบ้าน’
ก่อนจะเป็นยาหม่องตราเสือ โอชูกิง หรือ หู่จื่อซิน อดีตแพทย์สมุนไพรประจำราชสำนักขององค์พระจักรพรรดิประเทศจีน เป็นผู้ปรุงยาขี้ผึ้งจากสมุนไพรจีนสำหรับใช้ทานวดบรรเทาปวดและแก้แมลงสัตว์กัดต่อยให้กับคนราชสำนัก หลังจากหนีสงครามกลางเมืองภายในประเทศและความอดอยากสมัยกบฏไท่ผิง โอชูกิงอพยพมาตั้งถิ่นฐานที่เมียนมา นำเคล็ดวิชาปรุงยาขี้ผึ้งมาทำขายในร้านขายยาของตัวเองที่ชื่อ ‘อัง เอิน ตง’ ในปี 2413 พร้อมถ่ายทอดเคล็ดวิชาปรุงยานี้ให้กับลูกชาย โอบุ้นโฮ้ว และ โอบุ้นป่า
ปี 2451 หลังจากโอชูกิงเสียชีวิต ลูกชายทั้งสองเข้ามารับช่วงต่อและตั้งบริษัทในชื่อ ‘โฮ้ว ป่า’ ช่วยกันคิดค้นและพัฒนาสูตรยาต้นตำรับของพ่อให้กลายเป็นสูตรยาที่สามารถรักษาอาการปวดได้ครอบจักรวาล เมื่อสินค้าได้รับความนิยม พวกเขาก็ได้ขยายกิจการไปยังประเทศสิงคโปร์ โดยมีโอบุ้นโฮ้วเป็นผู้บุกเบิกการตลาด และได้ตั้งชื่อผลิตภัณฑ์ว่า ไทเกอร์ บาล์ม (Tiger Balm) ตามชื่อ ‘เสือ’ ที่สองพี่น้องมีร่วมกัน ตัวหนึ่งเป็นเสือลายพาดกลอน (หู่) อีกตัวเป็นเสือดาว (ป่า) พร้อมแตกไลน์ผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่น ยาน้ำมัน, ยาดม, ครีมนวดบรรเทาปวด, พลาสเตอร์บรรเทาปวด, แผ่นลดไข้ เป็นต้น จนสามารถพาบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์สำเร็จเมื่อปี 2512 ในชื่อ ‘Haw Par Brothers International Limited’
ธุรกิจ ‘โฮ้ว ป่า’ ขยายตัวต่อเนื่องและประสบความสำเร็จในหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นมาเลเซีย ฮ่องกง อินโดนีเซีย จีน รวมถึงไทย
ความยิ่งใหญ่ของไทเกอร์ บาล์ม ยังคงดำเนินต่อไป แม้ว่าสองพี่น้องตระกูลโอจะจากไป เพราะได้ วีโชวเยา มหาเศรษฐีชาวสิงคโปร์ เจ้าของธนาคารยูโอบี ที่เข้ามาบริหารกิจการและเปลี่ยนชื่อเป็น ‘Haw Par Corporation Limited’ อาจเรียกได้ว่าเป็นยุคที่อาณาจักรเสือกลับมาผงาดในตลาดโลกและเติบโตแบบก้าวกระโดด เพราะนอกจากจะแตกไลน์ผลิตภัณฑ์บรรเทาปวดแบบครบวงจร ยังดำเนินธุรกิจภายใต้วิสัยทัศน์ใหม่ ‘A Tiger Balm Jar in Every Household’ จนพาแบรนด์เอเชียให้กลายเป็นแบรนด์ระดับโลก ส่งออกไปกว่า 100 ประเทศใน 6 ทวีปทั่วโลก
จาก ‘ไทเกอร์ บาล์ม’ สู่ ‘ยาหม่องตราเสือ’
แล้วรู้หรือไม่ว่าแต่ละประเทศมีชื่อเรียกไทเกอร์ บาล์มต่างกันไป อย่างประเทศไทยจะเรียกว่า ‘ยาหม่องตราเสือ’ มาพร้อมกับวลีคุ้นเคย ‘ให้พี่เสือดูแล’ และ ‘มีพี่เสือไว้อุ่นใจกว่า’ โดยมีบริษัท โฮ้ว ป่า ไทเกอร์ บาล์ม (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้จัดจำหน่าย
แม้ชื่อเรียกจะต่างกัน ถูกส่งต่อกิจการมาหลายรุ่น และดำเนินธุรกิจในหลายประเทศ แต่เจตนารมณ์ของแบรนด์ที่สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่นมิเคยแปรเปลี่ยน โดยมีเป้าหมายที่จะส่งมอบสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีผ่านภูมิปัญญาโบราณที่ผ่านการพิสูจน์มาแล้วกว่า 100 ปี ในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก
ตำนานความยิ่งใหญ่กว่า 100 ปียังถูกเล่าขานผ่าน ‘สรรพคุณ’ ที่ได้รับการพัฒนาเป็นสูตรต่างๆ เพื่อให้เหมาะกับอาการที่ต่างกัน แม้ปัจจุบันจะมีผลิตภัณฑ์มากมายภายใต้อาณาจักรเสือ ที่เป็นผลิตภัณฑ์ที่ทุกคนจดจำและใช้บรรเทาอาการอย่างยาวนานคือ ‘ยาหม่องตราเสือ (ขวดสีแดง) สูตรร้อนดั้งเดิม’ ขี้ผึ้งสูตรร้อนดั้งเดิม ผลิตจากสมุนไพร ไม่ใช่สารเคมี ช่วยบรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อ เคล็ดขัดยอก ฟกช้ำ ปวดตามข้อ เส้นตึงเป็นตะคริว และยังช่วยบรรเทาอาการคันเนื่องจากแมลงกัดต่อย
และอีก 2 สูตรที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น ได้แก่ ‘ยาหม่องตราเสือ เอชอาร์ (ขวดสีขาว) สูตรคลาสสิก’ กลิ่นหอมสดชื่นและเป็นสูตรที่สามารถบรรเทาอาการได้หลากหลาย ทั้งปวดหัว คัดจมูก ท้องอืด ไปจนถึงคันจากแมลงกัดต่อย
ส่วนใครที่ชอบความหอมของกลิ่นลาเวนเดอร์น่าจะจดจำ ‘ยาหม่องตราเสือ ซอฟต์ (ขวดสีเหลือง)’ ได้อย่างแน่นอน นอกจากเนื้อบาล์มจะนุ่มเบา ยังผสานกลิ่นหอมของลาเวนเดอร์ ให้ความรู้สึกผ่อนคลายแบบอโรมาเธอราปี และยังมาพร้อมสรรพคุณครบครัน ทั้งบรรเทาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เส้นตึง ปวดหัว คัดจมูก สามารถใช้กับเด็กตั้งแต่อายุ 2 ขวบขึ้นไปจนถึงผู้ใหญ่ เรียกว่าใช้ได้ทั้งครอบครัวกันเลยทีเดียว
และทั้งหมดนี้คือเรื่องราวการเดินทางกว่า 100 ปีของเสือ ตำนานที่จะถูกเล่าขานทุกบ้าน ทุกครอบครัว และอยู่ #เคียงข้างอย่างเสือ จากรุ่นสู่รุ่น ไปพร้อมกับแนวคิดที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อช่วยบรรเทาทุกความเจ็บปวดต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง