“ถ้าวงการดนตรีไม่มี บรูโน มาร์ส (Bruno Mars) โลดแล่นอยู่ตอนนี้จะเป็นอย่างไร” นั่นคือหนึ่งในคำถามที่เราได้มาจากคอนเสิร์ต Bruno Mars: 24K Magic World Tour 2018 ที่จัดขึ้น ณ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี
ตลอด 90 นาทีของคอนเสิร์ตกับ 16 บทเพลงจาก 3 อัลบั้มของเขา (Doo-Wops & Hooligans, Unorthodox Jukebox และ 24K Magic) บรูโนได้แสดงสปิริตของการเป็นหนึ่งในศิลปินยุคปัจจุบันที่มีความสามารถไร้ที่ติ ทั้งร้อง เต้น และเล่นดนตรี ซึ่งมาพร้อมเสน่ห์ที่คุณจะอายุ 5 ขวบหรือ 75 ปี และดูคอนเสิร์ตจบก็จะรู้ว่านี่เป็นอีกหนึ่งความทรงจำที่ต้องเก็บไว้ และนั่นคือพลังของดนตรีอย่างแท้จริง
ตั้งแต่เปิดโชว์ด้วยเพลง Finesse จากอัลบั้มล่าสุดจนถึงปิดโชว์ด้วยเพลงอมตะไปแล้วอย่าง Uptown Funk เราได้เห็นวิวัฒนาการ ความก้าวหน้า และเรื่องราวชีวิตของผู้ชายคนนี้ที่เติบโตบนเกาะฮาวาย มีคุณพ่อเป็นนักดนตรี คุณแม่เป็นนักเต้นฮูลา และตัวบรูโนเองก็ใช้ชีวิตช่วงเด็กทำมาหากินเล่นเป็น เอลวิส เพรสลีย์ (Elvis Presley) ก่อนจะย้ายไปลอสแอนเจลิส ผิดพลาดชีวิตตอนสังกัดเพลง Motown Records แล้วโดนล้มเลิกสัญญา แต่เขาก็ลุกขึ้นมาใหม่และเริ่มเส้นทางศิลปินจนมาเป็นคนที่เราได้เห็นบนเวทีอิมแพ็คเมื่อคืนนี้
ถึงแม้เวทีสี่เหลี่ยมผืนผ้ากับเหล่าจอ LED และพลุที่ตูมตามตลอดเวลา (อาจเยอะเกินไปหน่อย) จะเป็นสเกลที่ไม่ได้หวือหวาอะไรสำหรับมาตรฐานคอนเสิร์ตป๊อปของศิลปินระดับนี้ แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาอะไร เพราะสิ่งที่บรูโนกับวง The Hooligans ของเขาแสดงออกมามันยอดเยี่ยมจริงๆ ทั้งยังดึงอารมณ์ให้คนดูอยู่กับโชว์ตลอดเวลา (แม้บางคนอาจจะสนุกผ่านหน้าจอมือถือที่ถ่ายโชว์ไปด้วย)
เราเห็นได้ชัดว่าบรูโนได้ดีไซน์คอนเสิร์ตในครั้งนี้เพื่อเป็นการอุทิศตัวให้กับเหล่าไอดอลของเขา ตั้งแต่ James Brown, Little Richard, Prince, New Edition และแน่นอน Michael Jackson โดยมีการเปิดเพลงอย่าง Remember The Time ก่อนโชว์เริ่มเพื่อเป็นการอุ่นเครื่อง ส่วนการร้องเพลง Versace on The Floor ก็ทำให้เรานึกถึงตอนไมเคิลร้องเพลง Human Nature ในยุคทัวร์คอนเสิร์ตอัลบั้ม Bad
ซึ่งการทำโชว์แบบ Throwback เราเชื่อว่าบรูโนไม่ได้ทำมาแค่เป็นกิมมิกเพื่อสร้างความแตกต่างในสมรภูมิดนตรีกระแสหลัก แต่เขาต้องการให้คนรุ่นใหม่มีโอกาสได้สัมผัสมนต์เสน่ห์ของดนตรีที่สร้างตัวตนของเขา ซึ่งเป็นรากฐานของดนตรีที่เราฟังกันทุกวันนี้และไม่อยากให้คนหลงลืมมันไป
เราถือว่าโชคดีมากที่ยังมีศิลปินแบบบรูโนอยู่ เพราะในยุคสมัยที่วงการดนตรีและวงการบันเทิงแปรปรวนไปหมด คนเกิดไว ดับไว มันก็ต่างสร้างค่านิยมที่ทำให้คนรู้สึกว่าไม่ต้องพยายามมากนักและไปโฟกัสเรื่องรูปร่างหน้าตาและเปลือกนอกก็พอ ซึ่งก็น่าเสียดาย เพราะการที่เราได้ดูการแสดงของบรูโน มาร์ส (หรือจะแค่ดู Beyoncé โชว์ที่เทศกาล Coachella สตรีมผ่านยูทูบ) พวกเขาสะท้อนให้เห็นว่า ‘ความสามารถ’ คือสิ่งที่จะนำพาตัวคุณถึงยอดสูงสุดของสาขาอาชีพ
* หมายเหตุ: ทางผู้จัดและศิลปินไม่ให้มีการใช้ภาพหรือวิดีโอใดๆ จากคอนเสิร์ตนี้ ภาพและวิดีโอที่ใช้ประกอบบทความนี้เป็นการแสดงในสถานที่อื่น