สำหรับทีมอื่น การเผชิญหน้ากับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา คือฝันร้าย คือการพยายามเอาตัวรอดให้ได้จากระบบและรูปแบบการเล่นฟุตบอลคอนโทรลที่ใกล้เคียงคำว่าสมบูรณ์แบบ และความหวังที่มีอยู่คือการเล่นอย่างอดทน เพื่อรอโอกาสสวนกลับจะแจ้งสักครั้งหรือสองครั้งใน 90 นาที
แม้กระทั่งคู่ปรับที่เป็นทีมระดับใกล้เคียงกันอย่างลิเวอร์พูลเองก็แทบเอาตัวไม่รอดในการเผชิญหน้ากันเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน แต่ได้ 1 คะแนนกลับมาจากเอติฮัดสเตเดียมด้วยประตูสุดสวยของ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์
ทว่าในเกมพรีเมียร์ลีกเมื่อคืนนี้ แมนฯ ซิตี้ ที่น่าเกรงขามทีมนั้นต้องตกอยู่ในสภาพเป็นรอง พวกเขามีโอกาสในการจบสกอร์น้อยที่สุดเพียง 2 ครั้ง แถมยังโดนส่องเป้ามากที่สุดถึง 22 ครั้ง
นี่คือเกมที่ย่ำแย่ที่สุดสำหรับทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ในรอบหลายปี
ในทางตรงกันข้าม นี่คือเกมที่สุดยอดที่สุดในชีวิตของ อูไน เอเมรี และอาจเป็นเกมที่ดีที่สุดในรอบหลายสิบปีสำหรับแฟนบอลทีมแอสตัน วิลลาด้วย
ผู้จัดการทีมชาวสเปนทำแบบนี้กับแมนฯ ซิตี้ ได้อย่างไร?
ก่อนหน้าที่จะลงสนามในเกมเยือนวิลลาพาร์ก เป๊ป กวาร์ดิโอลา ถูกผู้สื่อข่าวตั้งคำถามถึงผลงานในช่วงหลังที่มีอาการเครื่องสะดุด เพลาหัก สลักเสีย เกียร์หอน ถึงขั้นไม่ชนะติดต่อกันในเกมพรีเมียร์ลีกมาแล้วถึง 3 นัด แบบนี้จะยังสามารถป้องกันแชมป์พรีเมียร์ลีกเป็นสมัยที่ 4 ติดต่อกันไหวหรือไม่?
3 นัดที่ว่าคือการเสมอเชลซี 4-4, เสมอลิเวอร์พูล 1-1 และเสมอท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 3-3
ให้ความยุติธรรมกับเป๊ป ทั้ง 3 ทีมดังกล่าวต่างก็ถือเป็นทีมระดับท็อป แม้เชลซีจะมีผลงานลุ่มๆ ดอนๆ แต่พวกเขาเล่นได้ดีที่สุดในฤดูกาลในเกมดังกล่าว ขณะที่ลิเวอร์พูลรู้ๆ กันอยู่ว่าระดับใกล้เคียงกัน และสเปอร์สเองก็เป็นหนึ่งในทีมที่โชว์ผลงานได้ดีที่สุดในฤดูกาลนี้
เป๊ปตอบกับผู้สื่อข่าวในทำนองว่า “ถ้ายังเล่นได้แบบนี้ก็น่าจะป้องกันแชมป์ได้”
แต่บางทีความคิดของเขาอาจจะต้องได้รับการทบทวน โดยเฉพาะหลังจบเกมที่วิลลาพาร์ก ซึ่งถูกแอสตัน วิลลา ไล่ต้อนจนสะบักสะบอม ชนิดที่ต้องบอกว่าไม่มีใครทำแบบนี้กับแมนฯ ซิตี้ มานานแล้ว
ความสะบักสะบอมที่ว่านั้นขนาดไหน?
ขยายภาพให้เห็นขึ้นอีกนิด สถิติที่สำคัญอีกอย่างคือเรื่องของการตัดบอลในแดนของซิตี้ ซึ่งวิลลาทำได้มากถึง 13 ครั้ง ไม่เคยมีทีมไหนทำกับทีมของเป๊ปได้ขนาดนี้มาก่อนนับตั้งแต่อดีตกุนซือบาร์เซโลนาเข้ามาคุมทีมในฤดูกาล 2016/17
ความดุดันของวิลลา ซึ่งได้รับการกำกับโดยเอเมรีที่ออกมาสั่งการตลอดเวลา นอกจากจะกระตุ้นให้ทีมพยายามเล่นเป็นตัวของตัวเองแล้ว ยังไม่ยอมให้แมนฯ ซิตี้ ตั้งเกมได้โดยสะดวกเด็ดขาด หากพวกเขาได้ครองบอลก็จะมีนักเตะของวิลลาเข้าชาร์จตลอดเวลา
อาการทุรนทุรายของนักเตะแมนฯ ซิตี้ เป็นภาพที่ไม่คุ้นตาและไม่ได้เห็นกันบ่อยๆ ขนาดแฟนบอลที่ไม่ได้เชียร์วิลลาเองก็ประทับใจกับความเร่าร้อนของนักเตะ ‘The Villians’ เป็นอย่างยิ่ง
โดยเฉพาะกองกลางอย่าง จอห์น แมคกินน์ และ ดักลาส ลุยซ์ ที่ไล่ตาม แบร์นาโด ซิลวา ที่เป็นห้องเครื่องของซิตี้ชนิดไม่ให้กระดิกตัวเด็ดขาด และทำให้โคตรบอลชาวโปรตุเกสมีอาการลนลานอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
วิธีการเล่นแบบนี้ของวิลลาผ่านการ ‘ซ้อมใหญ่’ มาแล้วในเกมที่พบกับบอร์นมัธเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเอเมรีสั่งให้ลูกทีมทดลองเล่นแบบนี้ในช่วงครึ่งเวลาหลัง ซึ่งแม้จะจบลงด้วยการเสมอกัน 2-2 แต่ผลการทดลองที่ได้เป็นที่น่าพอใจเป็นอย่างยิ่ง
โดยเฉพาะแมคกินน์ ซึ่งธรรมชาติเป็นตัวริมเส้น แต่หุบเข้ามาเล่นด้านในได้ดี ตลอดทั้งเกมเขาชนะการดวล (Duels Won) ถึง 14 ครั้ง มากที่สุดในสนาม (รองลงมาคือ ยอสโก กวาร์ดิโอล 12 ครั้ง) และยังเป็นนักเตะที่เลี้ยงบอลผ่านคู่แข่ง (Dribbles Completed) มากที่สุดถึง 5 ครั้ง
สกิลเซ็ตของแมคกินน์สำคัญต่อเกมของวิลลาเป็นอย่างมาก ไม่เพียงแต่จังหวะเกมรับเท่านั้น แต่จังหวะเกมรุกเมื่อบอลอยู่ที่เท้าของเขานั้นยากที่จะแย่ง เป็นการซื้อเวลาเพื่อรอการสนับสนุนจากเพื่อนร่วมทีม
นอกจาก แบร์นาโด ซิลวา นักเตะอย่าง จอห์น สโตนส์ และ ริโอ ลูอิส รวมถึง มานูเอล อคานยี ที่ปกติแล้วเป็นนักเตะที่เยือกเย็น ก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้เช่นกัน
เรื่องนี้ยิ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของโรดรี กองกลางผู้เป็นมากกว่าหัวใจของทีม ซึ่งติดโทษแบน 1 นัดจากการสะสมใบเหลืองครบ 5 ใบ
ในฤดูกาลนี้แมนฯ ซิตี้ ประสบความพ่ายแพ้ถึง 5 นัดแล้ว และทุกนัดคือเกมที่ไม่มีกองกลางชาวสเปนอยู่ในสนาม
ความพิเศษของโรดรีไม่ได้อยู่แค่เรื่องของการทำลายเกมฝ่ายตรงข้ามเท่านั้น แต่ยังมีความสามารถในการพลิกแพลงจังหวะการเล่น เปลี่ยนจากรับเป็นรุก และการเคลื่อนที่ไปทุกจุดของสนาม เป็นคนที่บงการเกมของซิตี้อย่างแท้จริง
ดังนั้นเมื่อเซ็ตเกมไม่ได้ ขึ้นเกมไม่ถนัด โอกาสในการลุ้นทำประตูสำหรับทีมของเป๊ปจึงหดหายไปโดยปริยาย โดยที่นักเตะในแนวรุกชุดนี้เองแม้จะวูบวาบแต่ก็ยังไม่ถึงขั้นสามารถเปลี่ยนแปลงเกมได้โดยลำพังเหมือนโรดรี หรือ เควิน เดอ บรอยน์
และนี่คือโจทย์สำหรับเป๊ปที่จำเป็นต้องค้นหาคำตอบและหาหนทางในการกลับมา เพื่อไล่ตามคู่แข่งอย่างอาร์เซนอลและลิเวอร์พูล รวมถึงวิลลาที่แซงหน้าพวกเขาขึ้นไปอยู่อันดับ 3 ของตารางพรีเมียร์ลีกแล้ว
สำหรับทีมจากมิดแลนด์ นี่อาจเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดของพวกเขานับจากประตูชัยของ ปีเตอร์ วิท ที่พาทีมคว้าแชมป์ยูโรเปียนคัพเมื่อปี 1982 เลยทีเดียว
ขณะที่เอเมรี นี่คือชัยชนะครั้งแรกในรอบ 15 ปีที่เขาสามารถทำให้อัจฉริยะอย่าง เป๊ป กวาร์ดิโอลา ต้องยอมศิโรราบต่อการวางหมากและทีมของเขา
นี่คือผลงานในระดับ Masterclass ของผู้จัดการทีมจอมแท็กติกอีกคนของโลกฟุตบอลอย่างไม่ต้องสงสัย
ภาพประกอบ: กันยกร กาญจนวิไล
อ้างอิง:
- https://www.telegraph.co.uk/football/2023/12/06/aston-villa-vs-manchester-city-unai-emery-rodri-missing/
- https://www.telegraph.co.uk/football/2023/12/07/aston-villa-dominate-man-city-pep-guardiola-emery-tactics/
- https://theathletic.com/5113871/2023/12/07/aston-villa-destruction-of-manchester-city/
- ชัยชนะเหนือแมนฯ ซิตี้ เป็นชัยชนะนัดที่ 14 ติดต่อกันที่วิลลาพาร์ก ซึ่งถือเป็นสถิติที่ดีที่สุดของสโมสร
- ครั้งสุดท้ายที่พวกเขาแพ้ในบ้านคือการแพ้ให้กับอาร์เซนอลเมื่อฤดูกาลที่แล้ว และสุดสัปดาห์นี้วิลลาจะได้เปิดบ้านรับมืออาร์เซนอลอีกครั้ง!