การที่ประเทศไทยสามารถทำยอดขายได้สูงสุดเป็นอันดับ 1 ของเอเชีย-แปซิฟิก ทำให้ ic! berlin แบรนด์แว่นหรูที่ก่อตั้งในกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ตัดสินใจจัดการฉลองครบรอบ 25 ปีในประเทศไทย
งานดังกล่าวยังเป็นการพบปะของเหล่าแบรนด์แอมบาสเดอร์ที่เป็นโลคัลของประเทศไทยด้วย มีทั้งหมด 4 คน คือ เจ-เจตริน วรรธนะสิน, แอฟ-ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ ซึ่งเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ชาย-หญิงคู่แรกของ ic! berlin ในประเทศไทย และ หมาก-ปริญ สุภารัตน์, แอลลี่-อชิรญา นิติพน แบรนด์แอมบาสเดอร์คู่ปัจจุบัน
พร้อมเปิดตัวคอลเล็กชันใหม่ Winter 2024 และ Limited Collection FLEXABON ครั้งแรกในโลกที่ไทย ความพิเศษของรุ่นนี้คือเป็นครั้งแรกที่ ic! berlin นำวัสดุไฮเทค Carbon Fiber ที่ใช้ในอุตสาหกรรมรถสปอร์ตและอวกาศ มาผสมผสานกับวัสดุสเตนเลสสตีลเกรดเครื่องมือแพทย์ ซึ่งจะมีราคาขายปลีกอยู่ที่ 40,000 บาทขึ้นไป โดยในประเทศไทยจะมีจำหน่ายเฉพาะที่ร้านดีลเลอร์หรือตัวแทนจำหน่ายระดับพรีเมียม 10 รายเท่านั้น เช่น KT OPTIC และ Optic Square ตั้งเป้าสิ้นปี 2567 จะขายได้ไม่น้อยกว่า 100 อันแน่นอน
ประพันธ์ ผดุงเกียรติสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อายลิ้งค์ วิชั่น จำกัด ผู้นำเข้าและจำหน่ายแว่นตาชั้นนำระดับโลกกว่า 20 แบรนด์ รวมถึงแบรนด์ ic! berlin ระบุว่า แผนการทำตลาดปี 2567 บริษัทฯ ยังคงใช้กลยุทธ์แบรนด์แอมบาสเดอร์มาร์เก็ตติ้งต่อเนื่อง เพราะประสบความสำเร็จในการทำตลาด สร้างยอดขาย และสร้างการรับรู้ของแบรนด์ในวงกว้างมากขึ้น ซึ่งไทยถือเป็นประเทศเดียวในโลกของ ic! berlin ที่ใช้ ‘โลคัลแบรนด์แอมบาสเดอร์’ และประสบความสำเร็จเกินคาด
โดยปี 2567 คาดว่าจะใช้งบทำการตลาดไม่น้อยกว่า 40 ล้านบาท ในการปลุกกำลังซื้อ พร้อมกำลังหาแบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่ จากปัจจุบันที่ใช้ หมาก-ปริญ สุภารัตน์ และ แอลลี่-อชิรญา นิติพน เพื่อผลักดันให้ยอดรายได้สิ้นปี 2567 ของบริษัท อายลิ้งค์ วิชั่น จำกัด มากกว่า 200 ล้านบาท มียอดขายแว่นตาไม่น้อยกว่า 20,000 อัน เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ที่คาดว่าจะปิดยอดรายได้ของ ic! berlin ที่ 200 ล้านบาท มียอดขายแว่นตา 18,500 อัน ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดอันดับ 1 ที่มียอดจำหน่ายแว่นตาพรีเมียมผู้ชาย-ผู้หญิงมากที่สุดในประเทศไทย
“เชื่อว่าการใช้แบรนด์แอมบาสเดอร์ยังได้ผลดีในการทำตลาด และสร้างยอดขาย เพราะถือเป็นผู้ทรงอิทธิพลต่อผู้บริโภคมาก เช่น หมาก-ปริญ สุภารัตน์ แว่นตาทุกแบบที่ใส่จะถูกเรียกว่ารุ่น หมาก ปริญ”
ประพันธ์ย้ำว่า อายลิ้งค์ วิชั่น ยังคงมุ่งเน้นแว่นตาแนวฟังก์ชันนัลเป็นอันดับ 1 ซึ่งจากประสบการณ์ที่ยาวนานของบริษัทฯ และจำนวนแบรนด์ที่บริษัทฯ ได้นำเข้าและจัดจำหน่าย ทำให้สามารถครองส่วนแบ่งการตลาดแว่นตาฟังก์ชันนัลในประเทศไทยเกิน 80% ของตลาดรวม โดยสิ้นปี 2566 คาดว่ายอดจำหน่ายของบริษัท อายลิ้งค์ วิชั่น จำกัด เติบโต 10% จากปีก่อน ที่ปิดยอดรายได้ 350 ล้านบาท ตั้งเป้าสิ้นปี 2567 จะสร้างยอดรายได้ทะลุ 500 ล้านบาท