วันนี้ (24 พฤศจิกายน) ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศรายงานการติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศเวลา 07.00 น. ว่า ภาพรวมปริมาณ PM2.5 ในประเทศพบเกินค่ามาตรฐาน ในพื้นที่กรุงเทพฯ เกินค่ามาตรฐาน 16 พื้นที่ ไปถึงจังหวัดนนทบุรี, จังหวัดสมุทรสาคร, จังหวัดสมุทรปราการ, จังหวัดพิษณุโลก และจังหวัดราชบุรี
พัชรวาทขีดเส้นรายงานผลแก้ฝุ่นพิษทุก 30 วัน
เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายนที่ผ่านมา พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการจัดการปัญหามลพิษทางอากาศเพื่อความยั่งยืน ครั้งที่ 1/2566
พล.ต.อ. พัชรวาท กล่าวว่า คณะกรรมการจัดการปัญหามลพิษทางอากาศเพื่อความยั่งยืนได้มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินมาตรการเร่งด่วนเพื่อลดพื้นที่การเผาไหม้ซ้ำซาก ในพื้นที่ 10 ป่าอนุรักษ์ 10 ป่าสงวนแห่งชาติ พื้นที่การเกษตรเผาไหม้ และการควบคุมฝุ่นละอองในเขตเมือง ได้แก่
การพิจารณาสิทธิประโยชน์หรือแรงจูงใจให้ภาคเอกชนที่ร่วมสนับสนุนการแก้ไขปัญหาไฟป่าและฝุ่น PM2.5, การกำหนดเงื่อนไขการอนุญาตการเผาและการบริหารจัดการการเผา, การเร่งรัดการนำระบบการรับรองผลผลิตทางการเกษตรแบบไม่เผามาใช้กับการปลูกอ้อย ข้าว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์, มาตรการไม่รับอ้อยไฟไหม้เข้าหีบ, การพิจารณาเพิ่มเงื่อนไขเรื่องการเผาในพื้นที่ป่าและพื้นที่เกษตรในการนำเข้า-ส่งออกสินค้า และการผลิตและจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงให้เป็นไปตามมาตรฐานยูโร 5 และรายงานทุก 30 วัน
ขณะเดียวกันได้เห็นชอบคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการอำนวยการเพื่อการจัดการปัญหามลพิษทางอากาศที่มีปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นประธาน เพื่อเป็นกลไกขับเคลื่อนการดำเนินงานภายใต้มาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่นพิษ PM2.5 ปี 2567 คำสั่งจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการระดับจังหวัดเพื่อแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ และ 5 จังหวัดปริมณฑล โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน
ทั้งนี้ เพื่อเป็นกลไกการแก้ไขปัญหาและบังคับใช้กฎหมายเชิงพื้นที่ เฝ้าระวัง แจ้งเตือน สร้างการรับรู้ และเผยแพร่ข้อมูลในการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ และคำสั่งจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการดับไฟป่า โดยมีแม่ทัพภาค 3 เป็นผู้อำนวยการศูนย์ เพื่อบูรณาการการดับไฟป่าด้วย
อนุทินออกหนังสือถึงผู้ว่าฯ ทุกจังหวัดรับมือฝุ่น
ก่อนหน้านี้ วันที่ 20 พฤศจิกายน อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 เมื่อหลายปีก่อน เป็นบทเรียนที่ทำให้เราเห็นว่าหากไม่มีการเตรียมความพร้อมดำเนินมาตรการไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ จะทำให้ปริมาณฝุ่นเพิ่มตัวหนาขึ้นโดยเฉพาะในเขตเมืองใหญ่ โดยปี 2566 นี้ หลายจังหวัดที่มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กอยู่ระดับสีแดงที่สูงกว่า 100 ไมโครกรัม เช่น กรุงเทพมหานคร, แม่ฮ่องสอน, เชียงใหม่, เชียงราย, ตาก, น่าน, พะเยา, ลำพูน, ลำปาง, แพร่ และอุตรดิตถ์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนอย่างมาก
อนุทินยังกล่าวตอนหนึ่งถึงการเตรียมความพร้อมรับมือกับฝุ่นในช่วงต้นปี 2567 ว่า ปัญหานี้เราเจอกันมาทุกปี ดังนั้น ทุกหน่วยงานต้องมีความพร้อมรับมือตั้งแต่ช่วงปลายปีนี้ โดยตนจะเร่งออกหนังสือเวียนถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดให้เตรียมแผนรับมือกับสถานการณ์ฝุ่น ปัญหาไฟไหม้ป่า และการเผาป่า โดยเฉพาะพื้นที่ที่เป็นจุดความร้อน (Hotspot) อย่างเชียงใหม่ เชียงราย ที่ยังเป็นพื้นที่ของการท่องเที่ยวในช่วงฤดูหนาวอีกด้วย
อ้างอิง: