History and Origins
จุดเริ่มต้นของแบรนด์ Loro Piana ต้องพาย้อนกลับไปช่วงต้นศตวรรษที่ 19 ณ ประเทศอิตาลี ครอบครัว Loro Piana ประกอบธุรกิจซื้อขายผ้าขนสัตว์โดยมีโรงงานสำหรับปั่นและทอขนสัตว์เป็นของตัวเอง ในปี 1924 หลังจากผ่านช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 สาเหตุที่ทำให้ธุรกิจชะงัก Pietro Loro Piana หนึ่งในสมาชิกของตระกูลได้ตัดสินใจก่อตั้งบริษัท Loro Piana & C. จนสามารถฟื้นฟูสถานะทางธุรกิจกลับมาได้อีกครั้ง ด้วยคุณภาพของวัสดุและเทคนิคการทอ ทำให้ Loro Piana ได้รับความนิยมอย่างสูง โดยเฉพาะในแวดวงแฟชั่นชั้นสูงโอต์กูตูร์ต่างให้การยอมรับและเลือกใช้ผ้าทอขนสัตว์จาก Loro Piana
ในปี 1975 สองพี่น้อง Sergio และ Pier Luigi Loro Piana ได้เข้ามาเปลี่ยนโฉมหน้าของแบรนด์ ทั้งคู่พยายามเสาะหาวัสดุที่ดีที่สุดในโลกในการนำมาทอ โดยเฉพาะแคชเมียร์ ‘บิกุญญา’ และทั้งสองยังผลักดันให้แบรนด์เข้าสู่ธุรกิจสินค้าแบรนด์หรูที่เดิมมีแค่รูปแบบค้าส่ง ซึ่งก็เริ่มพัฒนาให้มีสินค้า Ready-to-Wear เป็นของตัวเอง Loro Piana เพราะต้องเผชิญปัญหาธุรกิจสิ่งทอในเอเชียที่เข้ามาแย่งส่วนแบ่งธุรกิจด้วยราคาที่ถูกกว่า อย่างไรก็ตาม Loro Piana เลือกที่จะสู้ด้วยการลงทุนกับเครื่องจักรที่ดีที่สุด รวมถึงสืบทอดความรู้ความเชี่ยวชาญด้านการทอผ้าขนสัตว์จากรุ่นสู่รุ่น จนกลายเป็นจุดแข็งของแบรนด์จวบจนปัจจุบัน
Sustainable Procedures
แม้จะได้ชื่อว่าทำธุรกิจเสื้อผ้าขนสัตว์ที่ฟังดูแล้วเหมือนเป็นการทำร้ายสัตว์ แต่จริงๆ แล้ววิธีการเก็บเกี่ยวขนของ Loro Piana ไม่ใช้วิธีฆ่าสัตว์เลย แถมยังให้ความสำคัญกับการดูแลสัตว์อย่างจริงจัง เช่น การสร้างเขตอนุรักษ์บิกุญญา (Vicuña) เพื่อให้สามารถใช้ชีวิตตามธรรมชาติโดยไม่ถูกมนุษย์ไล่ล่า ส่วนวิธีเก็บขนของ Loro Piana นั้นจะใช้วิธีการสางขนและนำขนที่หลุดร่วงมาใช้ในการทอ ซึ่งใน 1 ปีจะเก็บขนได้เพียง 200-250 กรัมต่อ 1 ตัว นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมผ้าแคชเมียร์ของ Loro Piana จึงมีราคาที่สูงมาก เพราะพวกเขาใช้วิธีผลัดขนของสัตว์โดยธรรมชาตินั่นเอง
World’s Leading Cashmere Brand
จุดเด่นของ Loro Piana คือเรื่องการผลิตเสื้อผ้าขนสัตว์จากวัสดุที่ดีที่สุดและหายากที่สุดในโลก โดยเฉพาะการใช้ขนสัตว์จากบิกุญญา สัตว์ตระกูลอูฐ รูปร่างหน้าตาคล้ายอัลปากา ความพิเศษของขนบิกุญญาถูกขนานนามว่าเป็นหนึ่งในขนที่หายากและมีค่ามากที่สุดในโลก ลักษณะเฉพาะของขนจะมีความนุ่มและอุ่นมาก เหมาะสำหรับนำมาทอเป็นเสื้อผ้าหน้าหนาว บิกุญญาจะสามารถพบเห็นได้เฉพาะที่ประเทศเปรู โบลิเวีย และอาร์เจนตินา ซึ่งในปี 1994 ทางแบรนด์ Loro Piana ได้ลงนามข้อตกลงกับรัฐบาลเปรูและชุมชน Andean ทำให้ Loro Piana เป็นบริษัทเดียวในการซื้อ แปรรูป และส่งออกเส้นใยนี้ นอกจาก Loro Piana ยังมีขนแกะเมอริโนที่นำเข้าจากประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ และขนแพะที่เลี้ยงในมองโกเลียที่นำมาทำเป็นสินค้าแคชเมียร์ขึ้นชื่อของแบรนด์
Business Operation Under LVMH
ในปี 2013 ทายาทของ Loro Piana ได้ตัดสินใจขายหุ้นกว่า 80% ให้กับเครือบริษัทแฟชั่นยักษ์ใหญ่ LVMH บริษัทผู้เป็นเจ้าของแบรนด์หรูระดับโลก เช่น Christian Dior, Louis Vuitton, Tiffany & Co. และอีกมากมาย โดยมีรายงานว่า LVMH ซื้อหุ้นมูลค่าสูงกว่า 9 หมื่นล้านบาท สาเหตุหลักของการซื้อครั้งนี้น่าจะมาจากโมเดลธุรกิจของ Loro Piana ซึ่งเป็นแบบ Vertically Integrated หรือกระบวนการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำนั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นกระบวนการเลี้ยงสัตว์ เก็บขน ทอเสื้อผ้า ไปจนถึงการตลาดล้วนทำเองทั้งหมดภายในครอบครัวของ Loro Piana แบรนด์นี้ถือว่ามีสกิลเฉพาะตัวในการทำธุรกิจสิ่งทอที่ยากจะเลียนแบบ และ LVMH เองก็ยังไม่มีบริษัทแนวนี้อยู่ในเครือ ปัจจุบัน Loro Piana มีสาขาทั่วโลกกว่า 171 สาขา และมียอดขายเติบโตกว่า 20% โดยเฉพาะในญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และยุโรป
Iconic Items
แน่นอนว่าหนึ่งในไอเท็มซิกเนเจอร์ของ Loro Piana คือเสื้อผ้าแคชเมียร์ที่ทอขึ้นจากขนสัตว์ชั้นยอดของโลก แต่ที่เซอร์ไพรส์คือสินค้าอย่างรองเท้าโลฟเฟอร์พื้นขาวรูปทรงที่ได้แรงบันดาลใจจากเรือใบ หลังจากที่ Loro Piana ร่วมเป็นสปอนเซอร์ให้กับกีฬาหลายประเภท เช่น การแข่งขันขี่ม้า เรือใบ กอล์ฟ และรถยนต์ ซึ่งรองเท้าดังกล่าวได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วจากคุณภาพของรองเท้าที่สวมใส่สบาย มีรูปทรงคลาสสิกที่สามารถสวมใส่ได้ตลอด พร้อมซิกเนเจอร์พื้นรองเท้าสีขาว รวมถึงกระเป๋าถือรุ่น L19 ที่มีแฟนคลับตัวยงอย่าง Gigi Hadid นางแบบสาวคนดังถือสลับสับเปลี่ยนอยู่หลายสี ก็กลายเป็นไอเท็มที่หลายคนเริ่มให้ความสนใจ
Leader of Quiet Luxury
กระแสของ Quiet Luxury มาแรงมาก เริ่มจากกระแสการแต่งตัวจากซีรีส์ชื่อดัง Succession สไตล์ของ Kendall Roy ตัวละครหลัก กลายเป็นหมุดหมายเทรนด์ Quiet Luxury จนส่งให้ชื่อของ Loro Piana เป็นที่รู้จักเป็นวงกว้าง รวมถึงสไตล์การขึ้นศาลของนักแสดงสาว Gwyneth Paltrow ที่ดูโก้และเรียบง่าย แต่เมื่อลองเสิร์ชตามกลับต้องตกใจกับราคาของเสื้อผ้า เมื่อเสื้อเรียบง่าย 1 ตัวของเธอมีราคาสูงกว่า 2 แสนบาท Loro Piana จึงกลายเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้เทรนด์เรียบโก้หรูนี้ได้รับความนิยมและเป็นที่พูดถึงจากสไตล์ของแบรนด์นี้
Celebrity Endorsement
อย่างที่เรากล่าวไปข้างต้น กระแส Quiet Luxury คือการแต่งตัวแบบเรียบง่ายไม่เน้นโลโก้และไม่สามารถบอกได้ว่าสวมใส่แบรนด์อะไร ถึงกระนั้น Loro Piana ก็เป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงจากคนดังทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น David Beckham ที่พาผู้ชายขานรับเทรนด์นี้ก่อนใคร และในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา Loro Piana ได้ประกาศให้นักแสดงหนุ่มหล่อชาวเกาหลีใต้ Hyun Bin ขึ้นแท่น Global Brand Ambassador คนแรก ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการเปิดตลาดเอเชียอย่างเป็นทางการของแบรนด์ Hyun Bin เองก็มีภาพลักษณ์สุขุมนิ่งและลึก เหมาะสมกับแบรนด์ Loro Piana เป็นอย่างมาก
