วันนี้ (19 พฤศจิกายน) กระทรวงการต่างประเทศ ได้เผยแพร่แถลงการณ์เกี่ยวกับสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมในกาซา โดยระบุว่า “ประเทศไทยมีความห่วงกังวลอย่างยิ่งต่อความรุนแรงและสถานการณ์ด้านมนุษยธรรม ซึ่งส่งผลกระทบอย่างมากต่อพลเรือนในกาซา และเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งนี้ยุติการกระทำที่มุ่งร้ายต่อกัน ปกป้องพลเรือนและโครงสร้างพื้นฐานด้านพลเรือน ปฏิบัติตามกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ และเคารพต่อสถานะของโรงพยาบาลที่ต้องได้รับการคุ้มครอง
แถลงการณ์ยังเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวประกันทั้งหมดโดยไม่มีเงื่อนไข รวมถึงตัวประกันชาวไทย และเรียกร้องให้มีการจัดตั้งระเบียงมนุษยธรรมเพื่อเปิดทางขนส่งความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมจากประเทศและองค์กรช่วยเหลือต่างๆ
“ประเทศไทยเรียกร้องให้ปล่อยตัวประกันทั้งหมดโดยไม่มีเงื่อนไข รวมถึงตัวประกันชาวไทย และเรียกร้องให้ดูแลความปลอดภัยและปฏิบัติต่อตัวประกันอย่างมีมนุษยธรรม และให้ตัวประกันสามารถเข้าถึงความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมได้ ไทยเรียกร้องให้มีการจัดตั้งระเบียงมนุษยธรรมเพื่อให้สามารถขนส่งความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมจากประเทศและองค์กรต่างๆ รวมถึงหน่วยงานด้านการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมของสหประชาชาติได้อย่างปลอดภัยและไม่ถูกขัดขวาง” แถลงการณ์ระบุ
“ในการนี้ ประเทศไทยยินดีต่อการรับรองข้อมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่ 2712 (ค.ศ. 2023) ซึ่งเรียกร้องให้มีการหยุดยิงชั่วคราวอย่างเร่งด่วน การขยายระเบียงมนุษยธรรมในกาซาในช่วงเวลาที่เพียงพอ การปล่อยตัวประกันทั้งหมดทันทีและโดยไม่มีเงื่อนไข และเรียกร้องให้ทุกฝ่ายหยุดขัดขวางการเข้าถึงบริการที่จำเป็นและความช่วยเหลือของพลเรือน นอกจากนั้นประเทศไทยสนับสนุนให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติมีบทบาทมากขึ้นในการป้องกันไม่ให้วิกฤตด้านมนุษยธรรมแพร่ขยายเป็นวงกว้าง”
ขณะที่แถลงการณ์ยืนยันว่าไทยสนับสนุนการแก้ไขความขัดแย้งโดยสันติ เพื่อบรรลุแนวทางสองรัฐ (Two State Solution) ที่สอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศและข้อมติสหประชาชาติที่เกี่ยวข้อง
ภาพ: Ahmad Hasaballah / Getty Images
อ้างอิง: กระทรวงการต่างประเทศ