สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้เพิ่มสัดส่วนการถือครองทองคำในทุนสำรองระหว่างประเทศขึ้นกว่า 1 เท่าตัวนับจากปี 2562 และกำลังมองว่าทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยที่จะช่วยลดผลกระทบต่อทุนสำรองฯ จากความผันผวนของตลาดในยุคเงินเฟ้อสูง และปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ที่มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น
อลิศรา มหาสันทนะ รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพการเงิน ธปท. เปิดเผยกับ Bloomberg ว่า ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ธปท. ได้เพิ่มสัดส่วนการถือครองทองคำในทุนสำรองระหว่างประเทศเพื่อกระจายความเสี่ยงจริง แต่ปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดเกี่ยวกับตัวเลข
อย่างไรก็ดี ข้อมูลบนเว็บไซต์ของ ธปท. ณ วันที่ 20 ตุลาคม 2566 ระบุว่า ทองคำในทุนสำรองฯ ของไทยมีมูลค่าอยู่ที่ 1.56 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือราว 5.6 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระดับ 7.5 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 2.7 แสนล้านบาทในปี 2562
ในช่วงเดือนธันวาคม ปี 2563 ทุนสำรองฯ ไทยเคยพุ่งขึ้นไปแตะจุดสูงสุดที่ 2.58 แสนล้านดอลลาร์ (9.2 ล้านล้านบาท) ก่อนจะปรับลดลงมาอยู่ที่ระดับ 2.11 แสนล้านดอลลาร์ (7.5 ล้านล้านบาท) ในปัจจุบัน หรือปรับลดลงราว 4.7 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยเงินบาทที่อ่อนค่าในช่วงดังกล่าวถึง 20% และการเข้าแทรกแซงเพื่อดูแลความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ถือเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ทุนสำรองฯ ของไทยมีมูลค่าลดลง
“การกระจายสินทรัพย์เพื่อบริหารทุนสำรองฯ มีความท้าทายมากขึ้น เราต้องปรับพอร์ตโฟลิโอให้สามารถรองรับช็อกและการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ได้ ซึ่งการกระจายความเสี่ยงถือเป็นหัวใจสำคัญ” อลิศรากล่าว
อลิศรากล่าวอีกว่า การกระจายของการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ เพื่อบริหารทุนสำรองฯ จะช่วยลดผลกระทบจากความเสี่ยง เช่น ภาวะดอกเบี้ยสูงยาวนาน (Higher for Longer) ในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจหลัก การเพิ่มขึ้นของหนี้สาธารณะ การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน และความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งทำให้พันธบัตรของบางประเทศที่ในอดีตเคยถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย เริ่มมีความไม่แน่นอนเพิ่มขึ้น
“ราคาทองคำจะเคลื่อนไหวในทิศทางตรงข้ามกับราคาพันธบัตรและสินทรัพย์อื่นๆ ที่เราสามารถลงทุนได้ ทองคำจึงถือเป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงในภาวะที่เงินเฟ้อสูง ความไม่แน่นอนทางการเมืองสูง รวมถึงเวลาเกิดปัญหาเชิงภูมิรัฐศาสตร์” อลิศรากล่าว
นับตั้งแต่กลุ่มฮามาสเข้าโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ราคาทองคำแท่งในตลาดโลกได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาแล้วราว 9% โดยล่าสุดอยู่ใกล้ระดับ 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทำสถิติสูงสุดในรอบหลายเดือน ซึ่งเป็นผลมาจากความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นของนักลงทุน
ปัจจุบันไทยถือเป็นประเทศที่มีทุนสำรองฯ สูงเป็นอันดับที่ 11 ของโลก โดยทุนสำรองฯ ณ วันที่ 20 ตุลาคม 2566 อยู่ที่ระดับ 2.11 แสนล้านดอลลาร์ (7.5 ล้านล้านบาท) สูงกว่าระดับหนี้ต่างประเทศระยะสั้นของประเทศถึง 2.3 เท่า
อ้างอิง:
