องค์การสหประชาชาติ (UN) ประกาศเตือนว่า ‘ความสงบเรียบร้อยของประชาชน’ ในฉนวนกาซาเริ่มที่จะล่มสลาย หลังประชาชนหลายพันคนก่อเหตุบุกเข้าปล้นโกดังเก็บเสบียงอาหารของหน่วยงานบรรเทาทุกข์แห่งสหประชาชาติสำหรับผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ (UNRWA) โดยพบว่าข้าวสาลี แป้ง และสิ่งของยังชีพขั้นพื้นฐานอื่นๆ เช่น อุปกรณ์เพื่อสุขอนามัย ถูกปล้นไปจากโกดังหลายแห่งในพื้นที่ตอนกลางและตอนใต้ของกาซา
“นี่เป็นสัญญาณที่น่ากังวลว่าความสงบเรียบร้อยของพลเรือนเริ่มพังทลายลง หลังสงครามและการปิดล้อมอย่างแน่นหนาในกาซาเกิดขึ้นมากว่า 3 สัปดาห์” โทมัส ไวท์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่ UNRWA ในฉนวนกาซากล่าว
ทั้งนี้ อิสราเอลได้ปิดกั้นการขนส่งอาหาร น้ำ ยารักษาโรค และเชื้อเพลิงไปยังฉนวนกาซาโดยสิ้นเชิง หลังจากที่กลุ่มฮามาสเปิดฉากโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม โดยขบวนรถช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมขบวนแรกได้รับอนุญาตให้ข้ามจุดผ่านแดนเข้าสู่ตอนใต้ของกาซา หลังจากที่การสู้รบผ่านไปกว่า 2 สัปดาห์
ขณะที่ UNRWA ระบุว่า จนถึงตอนนี้มีรถบรรทุกความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมข้ามเข้าไปในฉนวนกาซา 84 คัน ซึ่งยังถือว่าน้อยเกินไปเมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดความขัดแย้งที่มีรถบรรทุกสิ่งของช่วยเหลือเข้าไปในฉนวนกาซาเฉลี่ย 500 คันต่อวัน
“อาหารและสิ่งของต่างๆ ในตลาดกำลังหมดลง ในขณะที่ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมที่เข้ามาในฉนวนกาซาด้วยรถบรรทุกจากอียิปต์ยังไม่เพียงพอ ความต้องการของชุมชนต่างๆ มีมากมายเพียงเพื่อความอยู่รอดขั้นพื้นฐานเท่านั้น ในขณะที่ความช่วยเหลือที่เราได้รับมีน้อยและไม่สอดคล้องกัน” เจ้าหน้าที่ UNRWA กล่าว
อ้างอิง: