การเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมการดื่มที่คนรุ่นใหม่ดื่มแอลกอฮอล์ลดลงกลายเป็นวิกฤตที่บริษัทเบียร์ทั่วโลกต้องเผชิญ ทว่า ‘เบียร์ไร้แอลกอฮอล์’ ได้เข้ามาเป็นออกซิเจนกู้ชีพ หลัง ‘เบียร์ไร้แอลกอฮอล์’ โดนใจคน Gen Z จนยอดขายโตระเบิด
วันนี้นักดื่มหน้าใหม่ที่ไม่อยากมึนเมาจนครองสติไม่ได้ สามารถหาซื้อเบียร์ไม่มีแอลกอฮอล์หลากหลายชนิดได้มากขึ้น บางส่วนมาจากโรงเบียร์คราฟต์ และมาจากแบรนด์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในธุรกิจ เช่น Heineken, Budweiser, Corona และแม้แต่ Guinness ไวน์และสุราแบบไม่มีแอลกอฮอล์ก็กำลังได้รับความนิยมเช่นกัน แต่ก็ยังตามหลังเบียร์ไม่มีแอลกอฮอล์ในแง่ของยอดขายรวม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ‘เบียร์ไร้แอลกอฮอล์’ ทางเลือกใหม่ของคนรักสุขภาพโตทั่วโลก ค่ายยักษ์ทุ่มทุนชิงส่วนแบ่งตลาด
- หวั่นต้นทุน-ภาษีทำตลาดสะดุด ‘ไฮเนเก้น’ ค้านรัฐรีดภาษีเบียร์ไร้แอลกอฮอล์เพิ่ม เผยต้นทุนยังพุ่งไม่หยุด อาจเล็งปรับราคาเพิ่มอีกรอบ
- ‘เบียร์ไร้แอลกอฮอล์’ ผู้ชุบชีวิตตลาดเบียร์ที่ซบเซาของญี่ปุ่น
ในสหรัฐอเมริกายอดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์พุ่งสูงขึ้นในช่วงปีแรกของการระบาดใหญ่ แต่หลังจากนั้นภาพได้เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ สวนทางกับยอดขายเบียร์ไม่มีแอลกอฮอล์ในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 32% จากปีก่อนหน้า และเติบโตเฉลี่ย 31% ในช่วงสี่ปี ตามข้อมูลจาก NielsenIQ
ผลิตภัณฑ์ใหม่เหล่านี้ไม่ได้มุ่งเป้าไปที่ผู้ดื่มเหล้าเท่านั้น ในความเป็นจริง ข้อมูลของ NielsenIQ พบว่าผู้ซื้อเบียร์ไม่มีแอลกอฮอล์ส่วนใหญ่ก็ซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เช่นกัน บางคนอาจต้องการเพียงควบคุมการดื่มของตน หรือสร้างโอกาสใหม่ในการดื่มเบียร์ เช่น มื้อเที่ยงหรือก่อนขับรถ
Heineken N.V. ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเบียร์ยักษ์ใหญ่ระดับโลก ได้เลือกผลักดันเบียร์ไร้แอลกอฮอล์ครั้งใหญ่ภายใต้แบรนด์เรือธง Heineken เมื่อ Heineken 0.0 เปิดตัวในยุโรปในปี 2017 และสหรัฐฯ ในปี 2019 หนึ่งในเป้าหมายหลักของบริษัทคือการ ‘ทำให้เบียร์ไร้แอลกอฮอล์ดูเท่’ Federico Castillo Martinez ผู้อำนวยการฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ของบริษัทในเนเธอร์แลนด์กล่าว
การเปิดโอกาสใหม่ๆ ในการดื่มเบียร์ถือเป็นโอกาสอันดีสำหรับผู้ผลิตเบียร์ เนื่องจากมีศักยภาพในการขยายตลาดเบียร์ได้ “ผู้คนมากกว่าครึ่งหนึ่งที่เข้าสู่การดื่มเบียร์ไม่มีแอลกอฮอล์นั้นมาจากเครื่องดื่มอื่นๆ เช่น น้ำอัดลม” Martinez กล่าว ขณะเดียวกัน ผู้บริหารของ AB InBev ประมาณการว่า 60% ของยอดขายเบียร์ไม่มีแอลกอฮอล์จะเพิ่มขึ้น ซึ่งหมายความว่าเบียร์เหล่านี้เป็นตัวแทนของการเติบโตใหม่ ไม่ได้เข้ามาทดแทนยอดขายเดิม
ปัจจุบัน Heineken 0.0 กลายเป็นเบียร์ไม่มีแอลกอฮอล์ที่มียอดขายสูงสุดในสหรัฐฯ โดยมีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 20% ตามข้อมูลของบริษัท ซึ่งตอนนี้ได้ทุ่มงบการตลาดจำนวนมากให้กับ Heineken 0.0 แม้ยอดขายจะยังไม่มากนัก โดยขณะนี้ Heineken 0.0 อยู่ในตลาดประมาณ 110 แห่ง โดยล่าสุดคือจีนและญี่ปุ่น
AB InBev ผู้ผลิตเบียร์รายใหญ่ที่สุดของโลก กล่าวว่า ตนเป็นผู้ขายเบียร์ไม่มีแอลกอฮอล์อันดับต้นๆ ทั่วโลก เมื่อพิจารณาจากปริมาณ โดยมีแบรนด์ท้องถิ่นต่างๆ ในเวอร์ชันไม่มีแอลกอฮอล์ทุกที่ตั้งแต่บราซิลไปจนถึงเกาหลีใต้ ในสหรัฐฯ จำหน่ายเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ เช่น Budweiser, Stella Artois และอื่นๆ ในยุโรปมีเบียร์ Leffe เวอร์ชันไม่มีแอลกอฮอล์ ซึ่งเป็นเบียร์เบลเยียมอันเป็นเอกลักษณ์ที่แต่ก่อนรู้จักกันดีในเรื่องปริมาณแอลกอฮอล์สูง
สหรัฐฯ ตามหลังยุโรปในเรื่องแนวโน้มเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ แต่นั่นเป็นเพียงตัวอย่างให้เห็นถึงศักยภาพในการเติบโตในตลาดสหรัฐฯ เท่านั้น ยอดขายเบียร์ไม่มีแอลกอฮอล์ในสหรัฐฯ ในปี 2022 เท่ากับ 0.9% ของยอดขายเบียร์ทั้งหมดโดยปริมาตร ตามข้อมูลของ Euromonitor เทียบกับ 5.8% ในยุโรปตะวันตก
อย่างไรก็ตาม การที่เบียร์ไร้แอลกอฮอล์โดนใจคน Gen Z มาจากการใช้เทคโนโลยีที่ทำให้รสชาติดีขึ้น ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับผู้ผลิตเบียร์ที่เผชิญกับความท้าทาย จากการศึกษาเชิงวิชาการหลายชิ้นได้บันทึกถึงการลดลงของการดื่มในหมู่คนหนุ่มสาวอย่างชัดเจนในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา ไม่ใช่แค่ในสหรัฐฯ แต่ยังรวมถึงทั่วยุโรปและประเทศที่มีรายได้สูงอื่นๆ ด้วย
อาจเป็นไปได้ว่าคนหนุ่มสาวในปัจจุบันรับรู้ถึงความเสี่ยงจากการดื่มแอลกอฮอล์มากขึ้น และไม่เชื่อข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่แพร่หลายในทศวรรษก่อนๆ ที่ว่าการดื่ม 2-3 แก้วต่อวันนั้นดีต่อสุขภาพ
อ้างอิง: