“ให้โอกาสบริหารประเทศครบ 1 ปีก่อน หากทำไม่ได้ตามที่พูดค่อยตำหนิ”
เปิดมุมมองเจ้าสัวอมตะต่อนโยบาย Digital Wallet กระตุ้นเศรษฐกิจได้แค่ระยะสั้น ย้ำลดราคาพลังงานต้องไม่กระทบต่อการลงทุน ส่วนการขึ้นค่าแรงต้องค่อยเป็นค่อยไป ขอให้รัฐบาลพิจารณาจากสถานการณ์เงินเฟ้อ
วิกรม กรมดิษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานกรรมการ บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) และประธานมูลนิธิอมตะ เปิดเผยถึงนโยบายเร่งด่วนด้านเศรษฐกิจของรัฐบาล เศรษฐา ทวีสิน ว่า กรณีที่รัฐบาลมีนโยบาย Digital Wallet โดยคาดว่าจะใช้งบประมาณ 5.6 แสนล้านบาท ถือเป็นมาตรการระยะสั้นในการกระตุ้นเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ปัญหาที่ต้องคำนึงคือ ภาระทางการเงินประเทศจะมีปัญหาหรือไม่ เนื่องจากเป็นงบประมาณส่วนรวม จะมีความสามารถในการหาเงินมาคืนเงินได้ในอนาคตหรือไม่ ซึ่งนำมาช่วยประชาชนกลุ่มคนจนที่มีปัญหามาตั้งแต่สมัยโควิดก็คิดว่าเป็นประโยชน์ เพราะเงินตรงนี้จะเข้าไปกระตุ้นในภาคการผลิตด้วย
รวมไปถึงนโยบายลดราคาพลังงาน อยากให้รัฐบาลไปดูประเทศเพื่อนบ้านด้วยว่ารายได้ต่อหัวต่อปี (GDP ต่อหัว) เท่าไร และต้นทุนของค่าครองชีพน่าจะอยู่ที่ประมาณเท่าไร แล้วจึงไปดูราคาพลังงานที่ควรจะเป็นอยู่ที่ราคาเท่าไร วันนี้ถ้าจะประกาศลดอะไรที่มันเป็นของส่วนรวมต้องมีเหตุผล และไม่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนด้วย
“อย่าไปเอาใจประชาชนอย่างเดียว เราต้องดูในการผลิตด้วย เพราะประเทศจะต้องเดินไปด้วยโรงงาน แหล่งการผลิต ถ้ามีต้นทุนที่สูงก็ไม่สามารถทำได้” วิกรมกล่าว
อย่างไรก็ตาม เมื่อรัฐบาลจะทำอะไรก็แล้วแต่ ไม่ใช่คุยกันแค่ไม่กี่คน จะต้องมีการศึกษาและทำการบ้าน อย่างเช่น ประเทศเวียดนาม ทำไม 5 ปีที่ผ่านมาเม็ดเงินในการลงทุนของเขามากกว่าถึง 2-3 เท่า ก็เพราะค่าไฟฟ้า-ค่าน้ำในเวียดนามมีราคาถูก ต้องดูปัญหาตรงนี้ด้วย ไม่เช่นนั้นประเทศไทยก็จะขาดความสามารถในการลงทุน เพราะประเทศต่างๆ เช่น จีน, สิงคโปร์ และเวียดนาม ล้วนมีเม็ดเงินจากนักลงทุนต่างประเทศ (FDI)
ขณะที่นโยบายขึ้นค่าแรงเป็นสิ่งที่จำเป็นในสถานการณ์เงินเฟ้อ หากต้นทุนค่าครองชีพสูง จะไปบอกว่าต้องรักษาค่าแรงให้ถูกแบบนี้ ไม่ได้ ซึ่งมองว่ามันก็ไม่ยุติธรรม เพียงแต่การขึ้นค่าแรงต้องไม่ใช่การนำเอาระบบประชานิยมมาขึ้นค่าแรงแบบก้าวกระโดดเช่น จาก 200 บาท เป็น 300 บาท ภายในเวลาเท่านี้ เพราะการทำแบบนี้ไม่ใช่การบริหารเศรษฐกิจที่เหมาะสม การจะขึ้นค่าแรงควรจะขึ้นอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ขึ้นอย่างมีเหตุผล เช่น เงินเฟ้อเท่าไร ดอกเบี้ยเท่าไร ค่าพลังงานเท่าไร แต่ละปีมันเพิ่มเท่าไร เมื่อเห็นตัวเลขตรงนี้แล้วก็มาดูว่าจะปรับจากตัวเลขนี้มากน้อยเท่าไร ซึ่งต้องทำทุกปี เพราะต้นทุนขยับขึ้นตลอด
“ที่ผ่านมาเรามีนักการเมืองที่มีผลงานทางเศรษฐกิจกี่คน แต่วันนี้เราได้คนที่มีฝีมือ มีผลงาน เขาบริหารบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ฯ เขาผ่านขั้นตอนมา เขารู้ว่าอะไรถูกอะไรควร ปล่อยให้เขาบริหารสัก 1 ปี โดยปล่อยให้เขาทำงานไปก่อน เมื่อครบแล้วค่อยอัดเต็มที่ ไม่ต้องยั้งมือ หากสิ่งที่พูดไว้ทำไม่ได้ วันนั้นถ้าผมมีโอกาสก็จะไปอัดด้วย
“ทั้งนี้ วันนี้เราเป็นประชาชน และประชาชนเป็นเจ้าของประเทศ ต้องให้โอกาสเขา คอยดูว่าสิ่งที่เขาพูดมาทำได้กี่เปอร์เซ็นต์ เมื่อครบ 1 ปีสิ่งไหนที่เขาทำได้เราก็ต้องปรบมือ สนับสนุนเขา ถ้าเราทำแบบนี้ คนเก่งๆ ในประเทศเราก็จะมีกำลังใจ เพราะทุกวันนี้ประเทศไทยมีคนเก่งจำนวนมาก แต่ไม่มีใครยอมที่จะมาทำหน้าที่บริหาร เพราะไม่อยากเจ็บตัว” วิกรมกล่าว
นอกจากนี้วิกรมยังฝากถึงรัฐบาลกรณีพบเพจหลายรูปแบบที่มาชักชวนจูงใจ ทำให้ประชาชนเกิดความสูญเสียทรัพย์สินและเงินทองมูลค่าสูง ขณะนี้แม้จะมีการปราบปรามเละจับกุมผู้กระทำผิดไปแล้วหลายครั้ง
“ขณะนี้รัฐบาลใหม่กำลังเข้ามาบริหารประเทศแล้ว อยากให้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการปราบปรามอาชญากรรมทางไซเบอร์ ซึ่งมีการแพร่ระบาดและมีการใช้ฐานของต่างประเทศเป็นแหล่งหลอกลวงมายังประเทศไทย ซึ่งมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ อย่างมาก”