ช่วงเช้าของวันนี้ (29 สิงหาคม) ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ วิว-กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักแบดมินตันแชมป์โลกประเภทชายเดี่ยวคนแรกในประวัติศาสตร์ของไทย เดินทางกลับถึงประเทศไทยด้วยสายการบินไทย เที่ยวบิน TG951 เวลา 06.00 น. โดยมี พล.อ.อ. มณฑล สัชฌุกร อุปนายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ, แม่ปุก-กมลา ทองกร ประธานโรงเรียนแบดมินตันบ้านทองหยอด, ณัฐวัชร วิทิตศานต์ และ นัฎกนก วิทิตศานต์ บิดาและมารดา รวมถึงตัวแทนจากมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี เดินทางมารอต้อนรับอย่างอบอุ่น
โดยวิวให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนหลังเดินทางถึงว่า
“รู้สึกดีใจเพราะสามารถไปถึงแชมป์โลกได้แล้ว อาจจะผิดหวังจากปีก่อนที่พลาดแชมป์ไป แต่ปีนี้ทำได้ก็ภูมิใจ และมันเป็นความฝันตั้งแต่เด็กๆ ว่าอยากจะเป็นแชมป์โลก พอวันนี้ทำได้แล้วก็ดีใจมากๆ
“หลังจากจบรายการชิงแชมป์โลกก็จะเป็นรายการซูเปอร์ 1000 ไชน่า โอเพน ที่ประเทศจีน และซูเปอร์ 500 ฮ่องกง โอเพน ก่อนไปเอเชียนเกมส์ ก็จะพยายามเรียนรู้ให้มากกว่าเดิม เพราะหลังจากได้แชมป์โลกมันจะมีความกดดันมากขึ้น จากนี้ไปก็ต้องเริ่มนับจากศูนย์ใหม่ในทุกรายการที่เล่น พัฒนาตัวเองและเรียนรู้ต่อไป”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า การลงเล่นหลายรายการติดๆ กันจะมีผลต่อเอเชียนเกมส์หรือไม่นั้น กุลวุฒิกล่าวว่า
“มีแน่นอนอยู่แล้ว เพราะเราไม่ได้ฝึกซ้อมตามโปรแกรมที่ควรจะเป็น บางทีสภาพร่างกายมันอาจไม่สามารถยืนระยะได้เหมือนกับรายการแรกๆ ด้วย ผมขอคิดไปทีละรอบดีกว่า เพราะยิ่งคิดสูงก็ยิ่งกดดัน แล้วเล่นไม่เป็นตัวเองด้วย” กุลวุฒิกล่าว
“จากนี้คงยังไม่เปลี่ยนสไตล์การเล่น แต่แค่ต้องเพิ่มการซ้อมในช่วงระหว่างแข่งไปด้วย คุมพละกำลังเพื่อไว้ลงเล่นในรายการหลังๆ คู่แข่งรู้ดีอยู่แล้วว่าตนเป็นสไตล์แบบไหน แต่ถ้าหากมีพละกำลังมากพอก็สามารถสู้ได้”
ด้านณัฐวัชร บิดาของกุลวุฒิ กล่าวว่า จากแรกเริ่มเดิมทีให้เล่นแบดมินตันเพราะรักษาโรคภูมิแพ้ แต่มาจนถึงปัจจุบันสามารถก้าวไปเป็นแชมป์โลกได้ก็เหมือนไกลเกินฝัน และเป็นความยินดีและดีใจสำหรับครอบครัว วันนั้นก็ลุ้นกันอย่างมากเพราะแต้มมันใกล้กันมากๆ พยายามเชียร์ให้ถึงเกมสามเพราะเชื่อว่าจะมีสิทธิ์ชนะแน่นอน
ขณะที่น้องสาวอย่าง ส้ม-สรัลรักษ์ วิทิตศานต์ นักแบดมินตันเยาวชนมือ 13 ของโลก กล่าวว่า ดีใจกับพี่ชายเพราะเห็นความตั้งใจของพี่ชายมาโดยตลอด ส่วนตัวนั้นก็อยากทำให้ได้เหมือนกัน แต่ก็มีเส้นทางเป็นของตัวเอง จะค่อยๆ เดินหน้าไปตามเส้นทางของตัวเอง
สำหรับ วิว-กุลวุฒิ วิทิตศานต์ สร้างประวัติศาสตร์กลายเป็นแชมป์โลกแบดมินตันชายเดี่ยวคนแรกของไทยได้สำเร็จ หลังชนะ โคได นาราโอกะ มือวางอันดับ 4 ของโลกจากญี่ปุ่น ในรอบชิงชนะเลิศประเภทชายเดี่ยวรายการ TotalEnergies BWF World Championships 2023 ที่รอยัล อารีนา ในกรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก เมื่อวันที่ 28 สิงหาคมที่ผ่านมา
และชัยชนะครั้งนี้ส่งให้กุลวุฒิกลายเป็นนักแบดมินตันชายไทยคนแรกที่คว้าแชมป์โลกประเภทชายเดี่ยว และเป็นคนที่ 4 ของไทยที่ก้าวไปถึงแชมป์โลก ต่อจาก เมย์-รัชนก อินทนนท์ ที่เคยได้แชมป์หญิงเดี่ยวเมื่อปี 2013 และ บาส-เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ ปอป้อ-ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย จากประเภทคู่ผสมเมื่อปี 2021
