สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งสหรัฐอเมริกา (ก.ล.ต.) ตัดสินใจเลื่อนระยะเวลาตรวจสอบการยื่นจัดตั้งกองทุนบิทคอยน์สปอต ETF ออกไปจนถึงต้นปี 2024 จากปกติที่ควรจะอยู่ที่ 240 วัน สะท้อนให้เห็นถึงความซับซ้อนทางด้านกฎระเบียบและการกำกับดูแลที่ดำเนินต่อไป
หน่วยงานกำกับสหรัฐฯ เลื่อนการตรวจสอบกองทุนบิทคอยน์สปอต ETF ออกไปอีก 240 วัน
เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ราคาบิทคอยน์ปรับตัวสูงขึ้นจากข่าวดีที่ BlackRock บริษัทจัดการสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกยื่นคำร้องขอจัดตั้งกองทุนบิทคอยน์ ETF อย่างไรก็ตาม สำนักงาน ก.ล.ต. ได้ตัดสินใจเลื่อนการตรวจสอบออกไปอีก 240 วัน ซึ่งจะเกิดขึ้นในช่วงต้นปีหน้า นอกเหนือจาก BlackRock แล้ว บริษัท ARK Invest ของซีอีโอ Cathie Wood ที่ยื่นจดทะเบียนกองทุน ARK 21Shares Spot Bitcoin ETF ในเดือนพฤษภาคม 2023 ก็ถูกเลื่อนการตรวจสอบออกไปอีก 21 วัน เนื่องจากหน่วยงานกำกับดูแลเปิดรับการแสดงความคิดเห็นสาธารณะ โดยในขณะนี้บริษัทที่ยื่นจัดตั้งกองทุนบิทคอยน์สปอต ETF ได้แก่ BlackRock, ARK Invest, Bitwise Asset Management และอื่นๆ กำลังอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบ และการอนุมัติครั้งนี้จะกำหนดอนาคตอุตสาหกรรมคริปโตในสหรัฐอเมริกาต่อไป
ปัจจุบันสหรัฐฯ ได้อนุมัติกองทุนที่เกี่ยวข้องกับบิทคอยน์ไปแล้วหลายแห่ง แต่เป็นกองทุนบิทคอยน์ ETF ที่ซื้อขายอ้างอิงในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Futures) ขณะที่กองทุนบิทคอยน์สปอต ETF ยังคงมีความไม่ชัดเจน เนื่องจากหน่วยงานกำกับอ้างถึงความซับซ้อนของลักษณะสินทรัพย์ การลงทุนในบิทคอยน์ ETF กำลังได้รับความสนใจจากนักลงทุน เพราะสร้างประสบการณ์การลงทุนใหม่ๆ ในสินทรัพย์ดิจิทัล โดยที่ไม่ต้องถือครองโดยตรง
ก.ล.ต. มีวี่แววจะอนุมัติกองทุนบิทคอยน์นี้หรือไม่?
ท่าทีที่ระมัดระวังของ ก.ล.ต. ในการอนุมัติกองทุนสปอตบิทคอยน์ ETF อาจมาจากข้อกังวลด้านกฎระเบียบอย่างต่อเนื่องในตลาดคริปโตสหรัฐฯ ซึ่งปัจจุบันหน่วยงานกำกับดูแลมีคดีฟ้องร้องบริษัทคริปโตชั้นนำอย่าง Coinbase, Binance และ Ripple ทำให้การอนุมัติอาจเป็นไปได้ยากกว่าที่คิด
นักวิเคราะห์คาดว่าความน่าจะเป็นที่กองทุนบิทคอยน์ Bitcoin ETF จะได้รับการอนุมัติอยู่ที่ประมาณ 65% โดยมีคำยื่นขอของ BlackRock เป็นตัวกระตุ้นสำคัญ เนื่องจากเป็นผู้เล่นรายใหญ่ในตลาดการเงิน
อย่างไรก็ตามความนิยมในสกุลเงินที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อาจทำให้หน่วยงานกำกับดูแลไม่อาจปฏิเสธกองทุนบิทคอยน์ ETF ได้ในที่สุด แม้ว่าจะมีความล่าช้าก็ตาม และการที่สำนักงาน ก.ล.ต. ขยายระยะเวลาสำหรับการอนุมัติออกไปจนถึงต้นปี 2024 อาจทำให้สภาพแวดล้อมอุตสาหกรรมคริปโตดีขึ้น เนื่องจากกฎระเบียบในการกำกับดูแลคริปโตของสหรัฐฯ มีความชัดเจนมากขึ้น
การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงและความผันผวนสูงมาก นักลงทุนจึงควรกระจายความเสี่ยง ศึกษาหาข้อมูล และวางแผนในการลงทุนด้วยความรอบคอบ บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น
อ้างอิง:
