ราคา LNG โลกลดลงต่ำสุดในรอบ 2 ปี! บวกกับการผลิตก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยที่เพิ่มขึ้น สะท้อนค่าไฟฟ้าเดือนกันยายนปรับลดลงเหลือ 4.45 บาทต่อหน่วย กกพ. ย้ำแม้ต้นทุนราคาก๊าซธรรมชาติถูกลงรัฐยังคงมีหนี้ที่ต้องทยอยจ่ายคืนการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) อีกกว่าแสนล้านบาท
สำนักข่าว Reuters รายงานว่า ตลาดราคาก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) โลกขณะนี้เริ่มทรงตัว เนื่องจากผู้ซื้อแต่ละประเทศมุ่งเน้นไปที่การส่งมอบก่อนเข้าสู่ช่วงต้นฤดูหนาว แม้สินค้าคงคลังในยุโรปกำลังสร้างแรงกดดันต่อราคาเล็กน้อย แต่ราคา LNG เฉลี่ยสำหรับการส่งมอบในเดือนกันยายนสู่ตลาดเอเชียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังคงทรงตัวที่ 10.80 ดอลลาร์ต่อล้านบีทียู
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- จากค่าแรงถึงค่าไฟ ไทยอยู่อันดับไหนในอาเซียนและโลก
- ถอดรหัสค่าไฟแพง! ส่องวงจรกำหนดค่าไฟของประเทศไทย ใครรับบทอะไรบ้าง
- ราคาขายไฟฟ้าในยุโรปลดลงต่ำกว่าศูนย์ในบางช่วงเวลาระหว่างวัน หลังการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของพลังงานลมและแสงอาทิตย์
Toby Copson หัวหน้าฝ่ายการค้าระดับโลกของ Trident LNG กล่าวว่า ตลาดเอเชียมีความต้องการมาจากอินเดียและไทยที่ต้องการซื้อในราคาที่ต่ำ ก่อนที่เราจะเข้าสู่วัฏจักรอุปสงค์ในช่วงฤดูหนาวที่อาจทำให้ราคาสูงขึ้น บวกกับความไม่แน่นอนของรัสเซีย-ยูเครน อย่างไรก็ตาม ราคาสปอตของก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ในเอเชียขณะนี้ยังอยู่ในจุดที่ต่ำและลดลงเหลือ 9.80 ดอลลาร์ต่อล้านบีทียู ซึ่งต่ำกว่าระดับ 10 ดอลลาร์ต่อล้านบีทียู ถือเป็นราคาที่ต่ำสุดในรอบ 2 ปีหลังสงครามรัสเซีย-ยูเครน
สมภพ พัฒนอริยางกูล โฆษกกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ตั้งแต่เกิดวิกฤตราคาพลังงาน สงครามรัสเซีย-ยูเครน ส่งผลให้ราคา LNG นำเข้ามีราคาสูงและค่อนข้างผันผวน และส่งผลกระทบต่อค่าไฟฟ้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ขณะนี้ สถานการณ์ต้นทุนเชื้อเพลิงในรอบถัดไปนั้น (กันยายน-ธันวาคม) กระทรวงพลังงานประเมินว่ามีแนวโน้มที่ดีขึ้น เนื่องจากราคา LNG นำเข้าจากตลาดจรอ่อนตัวลง การผลิตก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยที่เพิ่มขึ้น กระทรวงพลังงานจึงได้เสนอข้อคิดเห็นไปยังคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานถึงแนวทางที่อาจพิจารณาในการคำนวณค่า Ft รวมถึงการบริหารภาระต้นทุนที่เกิดขึ้นจริงที่คงค้างอย่างเหมาะสม
ปรับลดราคาค่าไฟ 4.45 บาทต่อหน่วย มีผลเดือนกันยายน 2566
ล่าสุด รายงานข่าวจากกระทรวงพลังงาน ระบุว่า วันนี้ (27 กรกฎาคม) คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) มีมติรับทราบผลการรับฟังความคิดเห็นค่า Ft และได้พิจารณากรณีศึกษาการปรับค่า Ft ขายปลีก สำหรับเรียกเก็บในงวดเดือนกันยายน-ธันวาคม 2566 โดยมีมติเห็นชอบค่า Ft เรียกเก็บจำนวน 66.89 สตางค์ต่อหน่วย (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยปรับลดลงจากงวดปัจจุบัน (พฤษภาคม-สิงหาคม 2566) จาก 4.70 บาทต่อหน่วย เหลืออยู่ที่ 4.45 บาทต่อหน่วย และให้มีผลตั้งแต่รอบบิลเดือนกันยายน 2566 เป็นต้นไป
อย่างไรก็ตาม คมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) กล่าวว่า แม้ว่าต้นทุนราคาก๊าซธรรมชาติ (LNG) ถูกลงก็จริง แต่ยังคงมีหนี้ที่ต้องทยอยจ่ายคืนการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ที่แบกรับต้นทุนแทนผู้ใช้ไฟฟ้าในช่วงวิกฤตพลังงานจำนวนกว่าแสนล้านบาท หากค่าไฟถูกลงหมายความว่าระยะเวลาที่จะคืนหนี้ กฟผ. ก็จะยิ่งนานขึ้น ดังนั้น การจะลดค่าไฟฟ้างวดเดือนกันยายน-ธันวาคม 2566 ต้องคำนึงถึงสภาพคล่องของ กฟผ. ด้วย
ซึ่งการลดค่าไฟลงอยู่ที่ 4.45 บาทต่อหน่วย ทำให้ต้องทยอยชำระหนี้ กฟผ. หมดภายใน 5 งวด งวดละ 23,428 ล้านบาท
ส.อ.ท. ห่วง Fed ปรับอัตราดอกเบี้ย ราคาพลังงาน การเมืองหลังเลือกตั้ง
ด้าน มนตรี มหาพฤกษ์พงศ์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ภาคเอกชนห่วงปัจจัยภายนอกประเทศ ทั้งปัญหาเงินเฟ้อและ Fed ปรับอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูง และสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่จะส่งผลทำให้ราคาพลังงานและวัตถุดิบปรับตัวสูงขึ้นอีก โดยเฉพาะช่วงที่จะเข้าสู่ฤดูหนาวในยุโรปที่จะทำให้ความต้องการพลังงานเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งผลสำรวจผู้ประกอบการมากกว่า 76% ยังคงกังวลต้นทุนการผลิตที่อยู่ในระดับสูงทั้งจากค่าไฟฟ้า พลังงาน ราคาวัตถุดิบ และค่าขนส่ง
“นอกจากนี้ ความล่าช้าในการจัดตั้งรัฐบาลและความขัดแย้งทางการเมืองหลังการเลือกตั้งจะเป็นประเด็นสำคัญที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในครึ่งปีหลัง 2566 และส่งผลกระทบทำให้ภาคเอกชนชะลอการลงทุน กระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติ รวมถึงหากการชุมนุมประท้วงของประชาชนทวีความรุนแรงมากขึ้น จะส่งผลกระทบต่อบรรยากาศทางเศรษฐกิจที่ตอนนี้เราต้องอาศัยภาคการท่องเที่ยวเป็นเครื่องยนต์หลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ” มนตรีกล่าว
อ้างอิง:
