เกิดอะไรขึ้น:
InnovestX Research ประเมินกำไรสุทธิ 2Q66 ของ บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) (AP) ได้ที่ 1.51 พันล้านบาท (ลดลง 3.8%YoY แต่เพิ่มขึ้น 2.4%QoQ) โดยคาดการณ์รายได้ที่ 9.1 พันล้านบาท (ลดลง 7.4%YoY และ 2.9%QoQ) แบ่งเป็นสัดส่วนรายได้จากคอนโด 3% และโครงการแนวราบ 97% โครงการที่โอนใน 2Q66 ได้แก่ THE CITY บางนา, CENTRO บางนา, MODEN บางนา และ THE CITY ปิ่นเกล้า-บรมฯ 3
อัตรากำไรขั้นต้นโดยเฉลี่ยคาดว่าจะอยู่ที่ 36.2% (เทียบกับ 36.6% ใน 1Q66 และ 33.6% ใน 2Q65) ซึ่งถือว่าแข็งแกร่ง หากไม่รวมกำไรพิเศษจากการปรับปรุงต้นทุนคอนโดจำนวน 40 ล้านบาท ใน 1Q66 ส่วนแบ่งกำไรจาก JV คาดว่าจะอยู่ที่ 288 ล้านบาท (ลดลง 23.8%YoY แต่เพิ่มขึ้น 20.8%QoQ) โดยได้รับการสนับสนุนจากการโอนกรรมสิทธิ์อย่างต่อเนื่องที่โครงการ RHYTHM เจริญกรุง พาวิลเลี่ยน ถ้ากำไรสุทธิ 2Q66 ออกมาตามคาด กำไรสุทธิ 1H66 จะอยู่ที่ 2.99 พันล้านบาท (ลดลง 9.4%YoY)
ทั้งนี้ ยอดจอง 1H66 อยู่ที่ 2.36 หมื่นล้านบาท (ลดลง 7%YoY) คิดเป็น 41% ของเป้ายอดจองที่บริษัทวางไว้ในปี 2566 ที่ 5.8 หมื่นล้านบาท (เพิ่มขึ้น 15%YoY) แม้เป้ายอดจองปี 2566 ดูท้าทาย แต่เชื่อว่า AP จะทำยอดจองได้อย่างน้อย 5.2-5.3 หมื่นล้านบาท เติบโต 5-6% โดยได้รับการสนับสนุนจากการเปิดตัวโครงการใหม่ มูลค่า 5.6 หมื่นล้านบาท ใน 2H66
อย่างไรก็ดี Backlog ยังแข็งแกร่ง โดยประเมิน Backlog ในปัจจุบันของ AP (หลังจากหักรายได้ใน 2Q66) ได้ที่ 3.1 หมื่นล้านบาท โดย 45-50% น่าจะรับรู้เป็นรายได้ใน 2H66 และที่เหลือจะรับรู้เป็นรายได้ในปี 2567-2569
กระทบอย่างไร:
ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้น AP ไม่เปลี่ยนแปลง MoM อยู่ที่ระดับ 11.90 บาท ขณะที่ SET Index ปรับลดลง 1.07%MoM อยู่ที่ระดับ 1,521.18 จุด
กลยุทธ์การลงทุนและคำแนะนำ:
ปี 2566 ประมาณการรายได้ไว้ที่ 4.08 หมื่นล้านบาท (เพิ่มขึ้น 6%) โดยมี Secured Revenue แล้วที่ 85% อย่างไรก็ดี เนื่องจากโครงการแนวราบที่ให้อัตรากำไรขั้นต้นสูงมีกำหนดโอนในปี 2566 จึงปรับประมาณการอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจาก 34.6% สู่ 35.1% (จุดสูงสุดใหม่) และปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2566 เพิ่มขึ้นจาก 6 พันล้านบาท สู่ 6.24 พันล้านบาท (เพิ่มขึ้น 6%) ซึ่งเป็นระดับที่ทำจุดสูงสุดใหม่ และกำไร 3Q66 คาดว่าจะเพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ โดยได้รับการสนับสนุนจากการรับรู้รายได้จาก Backlog และอัตรากำไรขั้นต้นที่แข็งแกร่ง
กลยุทธ์การลงทุน InnovestX Research ยังคงคำแนะนำ Tactical Call สำหรับ AP ไว้ที่ Outperform ด้วยราคาเป้าหมายปี 2567 ที่ 15 บาทต่อหุ้น อ้างอิง P/E 7.4 เท่า (+0.25SD)
ส่วนความเสี่ยงและปัจจัยที่ต้องจับตาคือ
- การขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่องใน 2H66 และแนวโน้มอัตราการปฏิเสธสินเชื่อ โดยจะต้องจับตาดูคุณภาพของผู้ซื้อ
- การบริหารจัดการสินค้าคงเหลือจากการเปิดตัวโครงการใหม่จำนวนมากในปี 2565 ประกอบกับการเปิดตัวโครงการใหม่หลายโครงการในปี 2566
- การแข่งขันที่สูงขึ้นจากอุปทานที่เพิ่มขึ้น
- ความเป็นไปได้ที่จะมีการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำช่วงปลายปีนี้