วันนี้ (6 กรกฎาคม) ที่พาร์คพารากอน สยามพารากอน งาน ‘Siam Paragon The Wondrous Japan Heritage’ บรรยากาศเวทีการแข่งขันซูโม่ครั้งแรกของประเทศไทย เพื่อฉลองครบรอบ 136 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทยและญี่ปุ่น และครบรอบ 50 ปี มิตรภาพอาเซียน-ญี่ปุ่น มีนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศมาร่วมรับชมอย่างคึกคัก
สำหรับการแสดงแข่งขันซูโม่ จัดแสดงโดยอดีตนักกีฬาซูโม่มืออาชีพ ระดับโคมุสุบิ ได้แก่ โจโคริว และนักกีฬาระดับมาคุชิตะ ได้แก่ บุงโกะนิชิกิ, คุมะโก และ โคโตะโอโทริ ซึ่งนักซูโม่นับเป็นทูตวัฒนธรรมคนสำคัญ ผู้ร่วมเผยแพร่จิตวิญญาณแห่งกีฬาประจำชาติที่เก่าแก่ที่สุดและยังคงได้รับความนิยมอย่างมากจนปัจจุบัน
ซูโม่ เป็นศิลปะการป้องกันตัวที่สืบทอดกันมายาวนานกว่า 2,000 ปี และเป็นกีฬาประจำชาติที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น ที่ยังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายจนปัจจุบัน เดิมจัดขึ้นเพื่อประกอบพิธีกรรมบวงสรวงเทพเจ้า จนในสมัยเอโดะ จึงเริ่มมีการจัดแข่งขันซูโม่ขึ้น ปัจจุบันมีการจัดแข่งขันซูโม่กว่า 6 ทัวร์นาเมนต์ต่อปี ในโตเกียว, โอซาก้า, นาโกย่า และฟุกุโอกะ โดยแต่ละทัวร์นาเมนต์จะกินเวลา 15 วัน
กติกาการแข่งขันซูโม่คือ นักกีฬาซูโม่สองคนทำการต่อสู้ภายในสังเวียนวงกลม โดยใช้เทคนิคการต่อสู้ต่างๆ ในการเอาชนะคู่ต่อสู้ด้วยการทำให้อีกฝ่ายหลุดออกจากสังเวียน หรือส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกายแตะพื้น นอกจากฝ่าเท้า
สังเวียนในการแข่งขันยกพื้นสูงทำจากดิน ล้อมด้วยฟางข้าววงกลมเรียกว่า โดเฮียว ซูโม่จะมีลำดับขั้นที่เรียกว่า Banzuke ซึ่งประกอบด้วยทั้งหมด 10 ลำดับ
โดยก่อนการแข่งขันจะมีพิธีกรรมต่างๆ เช่น การโรยเกลือลงบนสนามแข่งเพื่อกำจัดปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย และจะกระทืบเท้าและแยกขาออกจากกันเพื่อเตรียมการต่อสู้ โดยนักซูโม่จะไว้ผมมวยตามแบบดั้งเดิมตามลำดับขั้น และแต่งกายด้วยผ้าเตี่ยวตามแบบโบราณที่เรียกว่ามาวาชิ และก่อนการแข่งขันยังมีการสวมผ้าไหมยาวระดับเข่า ประดับประดาสวยงาม ที่เรียกว่า เคโซมาวาชิ ซึ่งมีน้ำหนักถึงกว่า 10 กิโลกรัม
การเป็นนักกีฬาซูโม่ คือวิถีชีวิตแบบเฉพาะ ที่ต้องอาศัยการอุทิศตน การฝึกซ้อมอย่างคร่ำเคร่งและการปฏิบัติตามวินัยอย่างเคร่งครัด ถือเป็นอาชีพอันทรงเกียรติ
สำหรับผู้สนใจชมการแสดงซูโม่ที่สยามพารากอน สามารถเข้าชมแบบวอล์กอิน โดยจะจัดแสดงวันละ 2 รอบ รอบละ 90 นาที ได้แก่ 14.00 น. และ 17.00 น.