×

หวั่นเศรษฐกิจอังกฤษเสี่ยงเข้าสู่ภาวะถดถอย หลัง BOE ขึ้นดอกเบี้ยรวดเดียว 0.50%

23.06.2023
  • LOADING...
BOE

ความหวาดวิตกว่าเศรษฐกิจอังกฤษกำลังเข้าสู่ภาวะถดถอยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (22 มิถุนายน) หลังจากที่ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ตัดสินใจประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์หลายฝ่ายคาดการณ์กันไว้ก่อนหน้า เพื่อหวังต่อสู้กับอัตราเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับสูง

 

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวจะส่งผลกระทบอย่างหนักต่อบรรดาลูกหนี้ทั้งหลาย โดยเฉพาะเจ้าของบ้านที่ต้องรีไฟแนนซ์ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

 

ทั้งนี้ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (22 มิถุนายน) ถือเป็นอีกหนึ่งวันที่วุ่นวายสำหรับบรรดาธนาคารกลางต่างๆ ทั่วยุโรป ซึ่งมีกำหนดการประชุมทิศทางนโยบายการเงินของคณะกรรมการกำกับนโยบาย เริ่มต้นที่ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ซึ่งระบุว่า ทางคณะกรรมการนโยบายการเงิน 9 คนลงมติตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยของสหราชอาณาจักรปรับตัวแตะระดับสูงสุดในรอบ 15 ปีที่ 5% 

 

การปรับขึ้นดังกล่าวถือเป็นการปรับขึ้นต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 13 ของ BOE แต่ขนาดของการปรับขึ้นในครั้งนี้สร้างความประหลาดใจไม่น้อย เนื่องจากนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า BOE น่าจะปรับขึ้นเล็กน้อยที่ 0.25% ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งมองว่าเป็นการตัดสินใจที่สร้างความตื่นตระหนกไม่น้อย เพราะมีความหวังว่า BOE น่าจะตามรอยธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ในการหยุดการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยชั่วคราว

 

นอกจากนี้สัญญาณความกังวลเรื่องเศรษฐกิจถดถอยยังเพิ่มมากขึ้น เมื่อ แอนดรูว์ ไบลีย์ ประธาน BOE ระบุชัดว่า จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปอีกหากอัตราเงินเฟ้อไม่มีสัญญาณที่ชัดเจนของการชะลอตัว ทำให้ขณะนี้บรรดาผู้เชี่ยวชาญในตลาดทุนคาดว่ามีโอกาสที่อัตราดอกเบี้ยอังกฤษจะพุ่งแตะระดับ 6% ซึ่งเป็นระดับที่ไม่ได้เห็นมานานแล้วนับตั้งแต่ต้นปี 2000

 

ไบลีย์ ประธาน BOE ย้ำว่า ธนาคารกลางอังกฤษยังคงเชื่อมั่นที่จะทำให้อัตราเงินเฟ้อกลับสู่เป้าหมาย 2% และจะตัดสินใจสิ่งที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว

 

การตัดสินใจของ BOE ล่าสุดเห็นได้ชัดว่า ทางธนาคารกลางอังกฤษได้รับผลกระทบจากอัตราเงินเฟ้อที่ไม่สามารถผ่อนคลายได้เร็วเท่าที่คาดการณ์ไว้จากจุดสูงสุดของเดือนตุลาคม 2022 ที่ 11.1% โดยตัวเลขเงินเฟ้อล่าสุดในวันพุธที่ผ่านมา (21 มิถุนายน) แสดงให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อของสหราชอาณาจักรยังคงอยู่ในระดับสูงเกินคาดที่ 8.7%

 

ความเคลื่อนไหวของ BOE ในเวลานี้ถือได้ว่ามีความเข้มงวดมากกว่าประเทศเศรษฐกิจหลักอื่นๆ โดยหลายคนกล่าวว่า เป็นผลจากการตอบสนองของธนาคารกลางอังกฤษในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ช้าเกินไป และอีกส่วนหนึ่งเป็นผลจากการออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักร ซึ่งส่งผลต่อการเพิ่มต้นทุนการนำเข้า

 

ขณะเดียวกันการที่ค่าจ้างปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วก็ยิ่งชัดเจนว่า อัตราเงินเฟ้อสูงได้ฝังตัวอยู่ในระบบเศรษฐกิจอังกฤษ โดยไบลีย์ยอมรับว่า การตัดสินใจดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อผู้คนจำนวนมากที่มีภาระการจำนองหรือกู้ยืมอย่างมาก แต่หาก BOE ไม่ปรับขึ้นราคาตอนนี้ก็อาจแย่กว่านี้ภายหลัง

 

ด้านธนาคารกลางอื่นๆ ในยุโรป ส่วนหนึ่งต่างก็ตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในวันพฤหัสบดี (22 มิถุนายน) ซึ่งรวมถึงธนาคารแห่งชาติสวิส (Swiss National Bank) ที่ปรับขึ้น 0.25% ขณะที่ธนาคารกลางตุรกีประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย 6.50% และธนาคารกลางนอร์เวย์ปรับขึ้น 0.50% ทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายของนอร์เวย์ขณะนี้อยู่ที่ 3.75% แตะระดับสูงสุดในรอบ 15 ปี พร้อมส่งสัญญาณที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนสิงหาคม โดย ไอดา วอลเดน แบช ประธานธนาคารกลางนอร์เวย์ ระบุว่า ถ้าไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในตอนนี้ราคาสินค้าและค่าจ้างที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จะยิ่งทำให้เงินเฟ้อพุ่งขึ้นและเกาะแน่นอยู่กับเศรษฐกิจจนยากที่จะปรับลดลง

 

ทั้งนี้ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมีเป้าหมายในการช่วยลดอัตราเงินเฟ้อ โดยทำให้ต้นทุนการกู้ยืมของบุคคลและธุรกิจมีราคาแพงขึ้น ทำให้ชะลอการใช้จ่ายน้อยและการลงทุนลง ช่วยลดอุปสงค์และแรงกดดันต่อราคา

 

ด้านนักวิเคราะห์มองว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหราชอาณาจักรจะสร้างแรงกดดันเพิ่มเติมต่อผู้กู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งครัวเรือน 1.4 ล้านครัวเรือน หรือมากกว่านั้นที่ต้องรีไฟแนนซ์เงินกู้ซื้อบ้านในช่วงที่เหลือของปี ขณะที่ผู้เช่าก็เผชิญกับราคาค่าเช่าที่เพิ่มขึ้น

 

แม็กซ์ มอสลีย์ นักเศรษฐศาสตร์จากสถาบันวิจัยเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เตือนว่า การเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยเป็น 5% จะผลักดันให้ครัวเรือนหลายล้านครัวเรือนที่ติดจำนองอยู่ได้รับผลกระทบจนถึงขั้นล้มละลาย

 

นอกจากนี้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะมีค่าใช้จ่ายอย่างชัดเจน และมีความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจของอังกฤษ ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่เข้าสู่ภาวะถดถอย แม้ว่าเศรษฐกิจของยุโรปจะหดตัวเล็กน้อยในช่วง 6 เดือน ซึ่งสิ้นสุดในเดือนมีนาคมก็ตาม

 

ลุค บาร์โธโลมอว นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสจากบริษัทจัดการสินทรัพย์ abrdn ระบุว่า ขณะนี้เป็นเรื่องยากที่อังกฤษจะสามารถหลีกเลี่ยงภาวะถดถอย ที่ถือเป็นผลกระทบจากการเดินหน้าปรับลดอัตราเงินเฟ้อของธนาคารกลาง โดยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ BOE ในครั้งนี้น่าจะเป็นส่วนหนึ่งต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งจะทำให้การว่างงานเพิ่มขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้และจะมีการยึดบ้านมากขึ้น ถือเป็นฉากหลังที่รัฐบาลอนุรักษนิยมไม่ต้องการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงก่อนการเลือกตั้งทั่วไปที่จะมีขึ้นในปี 2024

 

อ้างอิง: 

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X