ในช่วงครึ่งทศวรรษที่ผ่านมา น้ำปลาร้าสำเร็จรูปแบรนด์ ‘ตำนัว’ ถือว่าประสบความสำเร็จอยู่ไม่น้อยจากยอดขาย 10 ล้านขวด คิดเป็นรายได้ทะลุ 300 ล้านบาท
อะไรทำให้น้ำปลาร้าตำนัวโดดเด่นท่ามกลางตลาดที่ใครๆ ก็สนใจ คำตอบคือคำกล่าวอ้างของแบรนด์ที่ระบุว่า จุดเด่นของน้ำปลาร้าตำนัวจะมีความเข้มข้น ไม่ตกตะกอน และมีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ เป็นสูตรเฉพาะที่ไม่มีแบรนด์ไหนสามารถเลียนแบบได้
ตอนนี้แบรนด์น้ำปลาร้าตำนัวมีวางจำหน่าย 2 สูตรหลัก คือ สูตรดั้งเดิมและสูตรกัญชา ล่าสุดได้มีการเปิดตัว 2 สูตรใหม่ คือ สูตรดับเบิ้ลโหน่ง สำหรับกลุ่มลูกค้าสายอีสานฮาร์ดคอร์ที่ชื่นชอบน้ำปลาร้าที่มีเนื้อสัมผัสเข้มข้นและฉุนเป็นพิเศษ และสูตรอโรม่า กลิ่นไม่แรงมาก สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มลองกินปลาร้า
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- เผยอินไซต์ลูกค้า LINE MAN ช่วงโควิดระลอก 3 พบ ‘ร้านกาแฟ’ กลับมาติดอันดับ 1 อีกครั้ง ‘ตำปูปลาร้า-คอหมูย่าง-ข้าวมันไก่’ เมนูยอดฮิต
- เครือ ZEN เกาะกัญชาฟีเวอร์ เตรียมออก ‘น้ำปลาร้าสูตรผสมกัญชา’ คาดขายจริงช่วงครึ่งปีหลัง
- กางแผน After Yum ปี 2564 เปิดร้านแรกในกรุงเทพฯ-บุก สปป.ลาว-ขายน้ำยำ น้ำปลาร้า และปั้นแฟรนไชส์
นอกจากการเปิดตัวสินค้าใหม่แล้ว ตำนัวมีแผนการใหญ่สำหรับ 1-5 ปีข้างหน้า ด้วยการทุ่มงบ 200 ล้านบาทสร้างโรงงานปลาร้าแห่งใหม่ที่จังหวัดหนองคาย
เป้าหมายสูงสุดที่อยู่เบื้องหลังการลงทุนครั้งสำคัญนี้คือ การควบคุมกระบวนการทั้งหมด ตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบไปจนถึงการส่งมอบสินค้าไปยังมือของลูกค้า กลยุทธ์นี้ไม่เพียงแค่รับประกันคุณภาพที่สม่ำเสมอเท่านั้น แต่ยังมีเป้าหมายเพื่อลดต้นทุนการขาย และเพิ่มอัตรากำไรด้วยการลดค่าใช้จ่ายในการขนส่ง
ปัจจุบันมีโรงงาน 2 แห่ง แห่งหนึ่งเป็นโรงงานขนาดกลางที่จังหวัดหนองคาย และอีกแห่งเป็นโรงงานขนาดใหญ่ที่จังหวัดสกลนคร โดยมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 120,000 ขวดต่อวัน เพื่อจำหน่ายภายใต้แบรนด์ตำนัวและช่องทาง OEM
ในแง่ของการกระจายตลาด ฐานลูกค้าของตำนัว 70% อยู่ในประเทศ และ 30% อยู่ในต่างประเทศ โดยได้เข้าสู่มินิมาร์ทในหลายประเทศ เช่น เกาหลี, สปป.ลาว, อเมริกา, ไต้หวัน, ฮ่องกง และยุโรป (EU)
แม้จะประสบความสำเร็จ แต่เส้นทางของการขยายตัวก็ไม่ได้ราบรื่นเสมอไป ตลาดอย่าง สปป.ลาว กัมพูชา และเวียดนาม มีความท้าทายที่ไม่เหมือนใคร เนื่องจากมีปลาร้าที่ผลิตในท้องถิ่นอยู่แล้ว
ในทางตรงกันข้าม ตลาดอเมริกาได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่สดใส เนื่องจากมีประชากรชาวลาวและชาวอีสานจำนวนมาก ที่น่าสนใจคือเกาหลีเป็นตลาดต่างประเทศแห่งแรกที่ต้อนรับน้ำปลาร้าตำนัว เบื้องหลังเป็นผลมาจากแรงงานไทยจำนวนมากที่อาศัยอยู่ในเกาหลี
ตำนัวมีความมั่นใจว่าเป้าหมายรายได้ปีนี้จะแตะระดับ 400 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโต 45% และตั้งเป้ารายได้ปีหน้าไว้ที่ 500 ล้านบาทด้วยกัน