วันนี้ (12 มิถุนายน) ดร.มัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ประธานมูลนิธิมัลลิกาเพื่อประชาชน อดีตกรรมการบริหารและอดีต ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ ได้ทวีตข้อความกรณี พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล ถือหุ้นจำนวน 42,000 หุ้นของบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ยังคงสถานะสื่ออยู่หรือไม่
ดร.มัลลิกาทวีตข้อความระบุว่า “เถียงอะไรกันนักคะ ไอทีวีเป็นสื่อตั้งแต่การจดทะเบียนวัตถุประสงค์บริษัท สิ้นสุดกระแสความที่ตรงนี้ค่ะ ไม่ต้องเถียงกันหรือหาหลักฐานอะไรมาว่าไอทีวีจะกลับมาเป็นสื่ออีกหรือไม่
“พิธาหรือใครที่ถือหุ้นสื่อโดยที่จะเป็นโทรทัศน์หรือจะเป็นบริษัทที่จดทะเบียนวัตถุประสงค์เป็นสื่อและยังไม่ได้ปิดบริษัท ต่างก็ล้วนกระทำผิดไปแล้ว การโอนหุ้นออกอันนั้นเพื่ออนาคตที่ยังมาไม่ถึง ปิดไม่มิดกับการกระทำที่เกิดขึ้นไปแล้ว
“ดังนั้นการจะจับโกหกนิกม์ (นิกม์ แสงศิรินาวิน อดีตผู้สมัคร ส.ส. พรรคภูมิใจไทย) หรือการจะเอาผู้สื่อข่าวคนใดมาเปิดหลักฐานใดก็ไม่ใช่ประเด็น ประเด็นมันอยู่ที่ถือหุ้นสื่อ ถืออยู่ ถือแล้ว ถือเอง 17 ปี ส่วนเรื่องไอทีวีเขาจะกลับมาเป็นสื่อหรือทำธุรกรรมอะไรของเขามันเป็นเรื่องที่เขาพยายามมานานแล้วตั้งแต่ปี 2553 ซึ่งไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพิธาหรือผู้ใด พิธาไม่ได้สำคัญมากขนาดที่ไอทีวีต้องวางแผนตั้งแต่ปี 2553 มั้ง
“การถือหุ้นสื่อในบริษัทที่จดวัตถุประสงค์เป็นสื่อจึงไม่มีคุณสมบัติที่จะสมัคร ส.ส. และเมื่อเทียบกับคนของพรรคไทยภักดีก่อนหน้านี้เขามีหุ้นสื่อช่องหนึ่งเพียงแค่ 1 หุ้น = 5 บาท เขาก็โดนตัดสิทธิไปแล้วเรียบร้อย และว่า สุรโชค ลงสมัคร ส.ท. ตำบลหนองตากยา อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2564 ทั้งที่ตนเองมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เนื่องจากถือหุ้นในบริษัท อสมท.จำนวน 1 หุ้น มูลค่า 5 บาท ตัดสิทธิไปแล้วจ้า”
อ้างอิง: