สหรัฐอเมริกากำลังเผชิญกับปัญหามลพิษทางอากาศจากไฟป่าที่เลวร้ายเป็นประวัติการณ์ โดยนักวิจัยเปิดเผยว่าประชาชนในนครนิวยอร์กต้องพบเจอกับระดับมลพิษที่สูงกว่ามาตรฐานคุณภาพอากาศของประเทศถึง 5 เท่าเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (7 มิถุนายน)
กลุ่มควันที่ลอยปกคลุมท้องฟ้าของสหรัฐฯ ในขณะนี้ ถูกพัดมาจากไฟป่าในแคนาดา ทำให้ชาวอเมริกันต้องประสบกับมลพิษทางอากาศซึ่งเลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่การเก็บข้อมูลในปี 2006 รายงานระบุว่า สถานการณ์ของมลพิษครั้งนี้เลวร้ายกว่าวิกฤตไฟป่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมา รวมถึงเหตุไฟป่าใหญ่ที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนกันยายน 2020 ในฝั่งตะวันตกของสหรัฐฯ
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดเปิดเผยว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันพุธส่งผลให้ชาวอเมริกันต้องสูดดมฝุ่น PM2.5 ที่มีค่ามาตรฐานคุณภาพอากาศเฉลี่ยอยู่ที่ 27.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่วนสถานการณ์ในนครนิวยอร์กนั้นค่อนข้างสาหัส ท้องฟ้าได้เปลี่ยนจากสีขาวขุ่นเป็นสีส้ม โรงเรียนและสนามเด็กเล่นต้องยกเลิกกิจกรรมกลางแจ้ง และผู้คนต้องกลับมาสวมหน้ากากอนามัยอีกครั้ง หลังจากไม่ได้สวมใส่ตั้งแต่การแพร่ระบาดของโควิด เพราะฝุ่นละอองขนาดเล็กสามารถฝังลึกเข้าไปในปอด ทำลายสุขภาพร่างกายโดยรวม และอาจเป็นเหตุให้เสียชีวิตได้ โดยค่าฝุ่นในนิวยอร์กสูงถึง 195 ไมโครกรัม หรือมากกว่าค่ามาตรฐานคุณภาพอากาศของสหรัฐฯ ถึง 5 เท่า
ชาวนิวยอร์กจำนวนมากเลือกที่จะอยู่ภายในอาคาร เพื่อหลีกหนีจากกลุ่มควันและกลิ่นไหม้ที่อบอวลอยู่บนท้องถนน แต่เครื่องตรวจวัดอากาศในแมนฮัตตันก็แสดงให้เห็นว่าผู้คนต้องสูดดมฝุ่นละอองมากกว่า 100 ไมโครกรัมแม้จะอยู่ในร่ม
นับตั้งแต่ปี 2006 มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดได้เก็บข้อมูลระดับควันไฟป่าและผลกระทบโดยเฉลี่ยต่อชาวอเมริกัน และจากการวิเคราะห์แสดงให้เห็นว่า ผู้คนในสหรัฐฯ ไม่เคยสัมผัสกับมลพิษจากไฟป่าที่ร้ายแรงเท่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันพุธที่ผ่านมา
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของนครนิวยอร์กได้ออกมาตรการความปลอดภัยในระหว่างที่เมืองยังถูกปกคลุมไปด้วยหมอกควันหนาทึบ ซึ่งไม่มีท่าทีจะเบาบางลงในอีกหลายวันข้างหน้า โดยนอกเหนือจากการกระตุ้นให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัย เช่น N95 หรือ KN95 แล้ว เจ้าหน้าที่สาธารณสุขยังแนะนำให้ประชาชนปิดหน้าต่างเพื่อไม่ให้ฝุ่นควันเข้ามาในบ้าน และใช้เครื่องฟอกอากาศหากเป็นไปได้
ฟรานเชสกา โดมินิชี (Francesca Dominici) ผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิอากาศและมลพิษทางอากาศแห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดกล่าวว่า ประชาชนควรงดออกกำลังกายกลางแจ้ง เพราะกลุ่มควันอาจสร้างปัญหาแก่ระบบทางเดินหายใจ รวมถึงระบบหัวใจและหลอดเลือด โดยเธอหวังว่าวิกฤตครั้งนี้จะเป็นโอกาสให้ผู้คนตระหนักถึงปัญหาภาวะโลกรวนที่ใกล้ตัวพวกเรามากขึ้น เพราะโลกรวนไม่ใช่แค่เรื่องของธารน้ำแข็งละลายหรือการสูญพันธ์ุของหมีขั้วโลก แต่มันสามารถทำได้แม้กระทั่ง ‘ทำให้เราไม่มีอากาศสะอาดได้หายใจ’
