วันนี้ (26 พฤษภาคม) ฮิโรคาสุ มัตสึโนะ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ญี่ปุ่นจะเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียตามมติของผู้นำชาติสมาชิก G7 ที่มาร่วมประชุมกันที่จังหวัดฮิโรชิมา ประเทศญี่ปุ่น เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
แถลงการณ์จากกระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงการค้าของญี่ปุ่นประกาศว่า ทางการจะอายัดทรัพย์สินของกลุ่มองค์กร 78 กลุ่ม และบุคคลอีก 17 คน ซึ่งรวมถึงเจ้าหน้าที่ในกองทัพของรัสเซีย และห้ามส่งออกสินค้าไปยังหน่วยงานของรัสเซีย 80 แห่ง อาทิ ห้องปฏิบัติการวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการทหาร
นอกจากนี้ญี่ปุ่นจะแบนการให้บริการด้านการก่อสร้างและวิศวกรรมแก่รัสเซียด้วย ส่วนรายละเอียดของมาตรการต่างๆ จะเปิดเผยอย่างเป็นทางการในภายหลัง
ขณะเดียวกันมัตสึโนะยังได้กล่าวประณามการเคลื่อนไหวของรัสเซีย ที่เดินหน้าเคลื่อนย้ายอาวุธนิวเคลียร์เชิงยุทธวิธีไปติดตั้งในเบลารุส ประเทศเพื่อนบ้านและพันธมิตรที่เหนียวแน่น โดยชี้ว่า การกระทำดังกล่าวจะยิ่งทำให้สถานการณ์ทวีความตึงเครียดมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
“ในฐานะที่ (ญี่ปุ่น) เป็นเพียงประเทศเดียวที่ต้องทุกข์ทรมานจากการถูกทิ้งระเบิดปรมาณูในช่วงสงคราม ญี่ปุ่นจะไม่ยอมรับภัยคุกคามด้านนิวเคลียร์ของรัสเซีย” มัตสึโนะกล่าว
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังจากช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้นำของกลุ่ม G7 ซึ่งได้แก่ ฝรั่งเศส, สหรัฐอเมริกา, อังกฤษ, เยอรมนี, ญี่ปุ่น, อิตาลี และแคนาดา เห็นพ้องให้ผนึกกำลังเดินหน้าสนับสนุนทางทหารแก่ยูเครนเพิ่มเติม พร้อมประกาศคว่ำบาตรรัสเซียระลอกใหม่
สำหรับความเคลื่อนไหวสำคัญที่น่าจับตานั้น สหรัฐฯ ประกาศสนับสนุนการฝึกอบรมให้ทหารของยูเครนสามารถขับเครื่องบินรบ F-16 เป็น พร้อมส่งสัญญาณอนุญาตให้ชาติต่างๆ สามารถส่ง F-16 ไปช่วยเหลือยูเครนได้ รวมถึงมีแพ็กเกจช่วยเหลือทางทหารเพิ่มเติมอีก 375 ล้านดอลลาร์
ขณะที่ฝั่งของอังกฤษประกาศแผนแบนการนำเข้าเพชร, ทองแดง, อะลูมิเนียม และนิกเกิล จากรัสเซีย รวมถึงประกาศมาตรการคว่ำบาตรระลอกใหม่ต่อรัสเซียด้วย โดยมุ่งเป้าไปที่บริษัทที่ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการขโมยธัญพืชของยูเครน
แฟ้มภาพ: Yuichi Yamazaki – Pool / Getty Images
อ้างอิง: