วันนี้ (13 พฤษภาคม) พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวภายหลังจากที่เข้าไปสอบปากคำ สรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ หรือ แอม ผู้ต้องหาในคดีไซยาไนด์ เป็นครั้งที่ 2
พล.ต.อ. สุรเชษฐ์กล่าวว่า แอมรับสารภาพในประเด็นที่ส่งกระเป๋าและทรัพย์สินบางส่วนของก้อย หนึ่งในผู้เสียชีวิต ไปให้กับแก้ว พยานในคดี เนื่องจากจำนนต่อหลักฐาน แต่ไม่ยอมรับว่าก่อเหตุฆาตกรรม
ส่วนเงิน 50,000 บาทของก้อย แอมระบุว่าไม่มีเงินอยู่ในกระเป๋า ส่วนโทรศัพท์ iPhone ของก้อยนำไปทิ้ง เนื่องจากตำรวจสามารถติดตามพิกัดได้ ซึ่งพนักงานสอบสวนจะเข้ามาสอบสวนอีกครั้งในสัปดาห์หน้า ส่วนทองคำของแด้ อดีตสามี แอมยอมรับว่านำไปขายที่ร้านทอง แต่ปฏิเสธไม่รู้เรื่องที่แด้เสียชีวิต
พล.ต.อ. สุรเชษฐ์กล่าวต่ออีกว่า ส่วนแก้วจะเป็นผู้เสียหายหรือไม่ เพราะให้ข้อมูลว่าเคยถูกแอมวางยาไซยาไนด์ ยังอยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐาน และแก้วยังไม่มีความผิดร่วม เนื่องจากมีเจตนานำของกลางมาให้ตำรวจตรวจสอบ
ส่วนการขอเปลี่ยนทนายความของแอม พล.ต.อ. สุรเชษฐ์กล่าวว่า ไม่มีผลทางคดี เป็นเพียงวิธีการของผู้ต้องหาเท่านั้น ถึงแม้ว่าจะยังปฏิเสธ แต่ตำรวจมีพยานหลักฐานที่จะเชื่อมโยงการก่อเหตุได้ทั้งหมดแล้ว เหลือเพียงข้อมูลเส้นทางการเงินที่รอตอบกลับมาจากธนาคาร รวมทั้งต้นตอผู้สั่งซื้อไซยาไนด์ให้กับแอม
นอกจากนี้จะแจ้งข้อกล่าวหาและขอศาลออกหมายจับผู้ใกล้ชิดแอมอีก 1-2 คน ในสัปดาห์หน้าเช่นกัน แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดว่าทำหน้าที่อะไรบ้าง
ส่วนการพูดคุยกับแอม พล.ต.อ. สุรเชษฐ์กล่าวว่า วันนี้แอมยังคงร้องไห้สลับกับหัวเราะ ไม่มีความเครียดมากนัก ส่วนก่อนหน้านี้ที่ทนายความได้ให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนว่าแอมไม่ต้องการให้บุคคลใดเข้ามาพบรวมทั้งตน ก็เห็นว่าแอมไม่มีท่าทีที่จะไม่ให้เข้าพบแต่อย่างใด
สำหรับการที่เข้ามาพบวันนี้เป็นความต้องการของแก้ว พยานในคดี ไม่ได้เป็นการเข้าพบตามใจผู้ต้องหา แต่หลังจากที่แก้วมาพร้อมกับตำรวจวันนี้ แอมมีท่าทีระแวง ไม่ไว้ใจแก้ว เนื่องจากไปออกรายการโทรทัศน์ และอยู่กับตำรวจ แต่ไว้ใจทนายความมากกว่า
ขณะที่ ชินคุปต์ ไทยยะกร ที่ถูกแอมแต่งตั้งให้เป็นทนายความเพื่อให้คำปรึกษาในเรือนจำ ยืนยันว่าไม่ได้เป็นทนายความให้กับแอม โดยวันที่เข้าไปเพราะไปพบลูกความของตัวเอง แต่แอมได้รับคำแนะนำจากเพื่อนผู้ต้องขังด้วยกันให้มาขอคำปรึกษา จึงต้องแต่งตั้งทนายตามระเบียบของการเข้าพบผู้ต้องขัง
พร้อมยืนยันว่าจะไม่เป็นทนายความในคดีให้ เนื่องจากผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ ซึ่งยากต่อการต่อสู้คดี เพราะในครั้งแรกที่จะเข้าให้คำปรึกษา เข้าใจว่าแอมจะรับสารภาพ และจะบอกถึงขั้นตอนการต่อสู้คดี ซึ่งในมุมมองของนักกฎหมายก็เห็นว่าคดีนี้หากจะต่อสู้คดีก็เป็นเรื่องยาก เนื่องจากพยานหลักฐานที่ปรากฏตามสื่อมวลชนค่อนข้างชัดเจน
