อนาคตประเทศไทย ถูกจับตามองอีกครั้งกับการเลือกตั้งครั้งนี้ ซึ่งถือเป็น ‘ความหวัง’ ครั้งสำคัญของประชาชนทั้งประเทศ
นอกเหนือจากนโยบายเศรษฐกิจ การค้า ที่พรรคการเมืองต่างๆ นำมาหาเสียง หนึ่งในนโยบายที่คนไทยต้องให้ความสนใจไม่แพ้กัน คือ ‘นโยบายต่างประเทศ’ ที่จะเป็นหัวหอกสำคัญในการสร้างโอกาสและขยายความสัมพันธ์กับนานาชาติ เพื่อผลประโยชน์ต่อประเทศหลากหลายด้าน และขยายบทบาทของไทยในเวทีโลก
อย่างไรก็ตาม การขับเคลื่อนนโยบายต่างประเทศและการทูตของไทยจากนี้ อาจไม่ใช่เรื่องง่ายและมีหลายปัจจัยต้องพิจารณา ท่ามกลางสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์และอุณหภูมิการเมืองของโลกที่ร้อนระอุ ทั้งจากไฟสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ความขัดแย้งจีน-สหรัฐฯ ประเด็นไต้หวัน เกาหลีเหนือ และวิกฤตใกล้บ้านอย่างเมียนมา
ในขณะที่โลกเริ่มเปลี่ยนแปลงจากยุคมหาอำนาจขั้วเดียว (Unipolar World) ไปสู่โลกแบบหลายขั้วอำนาจ (Multipolar World) มากขึ้นเรื่อยๆ ก่อให้เกิดคำถามสำคัญว่า รัฐบาลชุดใหม่ที่จะนำพาประเทศไทยหลังการเลือกตั้ง ควรมีจุดยืนและนโยบายอย่างไรท่ามกลางภาวะโลกที่แบ่งขั้วและขัดแย้งรุนแรงเช่นนี้