×

ตลาดกระเป๋าแบรนด์เนมมือสองยังคงร้อนแรง รวมทั้งตลาดในเมืองไทย

29.04.2023
  • LOADING...
กระเป๋าแบรนด์เนม

ถ้าวัดกันตามสถิติหมวดหมู่ของกระเป๋าแบรนด์เนมเป็นหนึ่งในกลุ่มที่เติบโตเร็วที่สุดในตลาดขายต่อ โดยมีมูลค่าประมาณ 3.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2021 และเติบโตเร็วกว่าการขายปลีกแบบดั้งเดิมถึง 4 เท่า และรายงานของ Credit Suisse ในปี 2022 เครื่องประดับ กระเป๋าถือ และนาฬิกา เป็นตัวเลือกที่น่าเชื่อถือที่สุดสำหรับการลงทุนในของสะสมหรูหรา จึงไม่น่าแปลกใจที่ตลาดกระเป๋าแบรนด์เนมมือสองยังคงร้อนแรงจนถึงปัจจุบันนี้

 

เบื้องหลังการเติบโตนี้ขับเคลื่อนโดยผู้ซื้อจากหลายเหตุผล ทั้งผู้ที่ชื่นชอบความตื่นเต้นในการตามล่าหาของและข้อจำกัดของแบรนด์ต่างๆ ในการเข้าถึงสินค้า อีกทั้งตลาดขายต่อยังสามารถเป็นช่องทางสำหรับเจ้าของในการเก็บมูลค่าของกระเป๋าบางส่วนกลับคืนมา หรือบางทีอาจจะทำกำไรได้ด้วย 

 

ซึ่ง 3 แบรนด์หลักในตลาดขายต่อหนีไม่พ้น Chanel, Hermès และ Louis Vuitton โดย Hermès Birkin มีมูลค่าเพิ่มขึ้นทุกปีที่ 1.5-10% ขณะที่รุ่นอื่นๆ ก็ได้รับความนิยม และมีความต้องการในตลาดขายต่อ เช่น Hermès Constance มียอดขายต่อเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 105% ในขณะที่ Chanel Medium Flap เพิ่มขึ้น 51%ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ตามข้อมูลของเว็บไซต์ The RealReal

 

หันมาดูในประเทศไทยกันบ้าง เคยมีการประมาณการกันว่า ตลาดลักชัวรีแบรนด์มีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 2 แสนล้านบาท ขณะที่สินค้ามือสองมีการซื้อขายสินค้าผ่านช็อปของแบรนด์ต่างๆ ถึง 10-20% ไม่รวมช่องทางออนไลน์และการซื้อขายกันเอง 

 

 

โดยข้อมูลจากสมาคมแบรนด์เนมมือสองแห่งประเทศไทย เผยว่าก่อนสถานการณ์โควิดแพร่ระบาด 4-5 ปี มูลค่าตลาดสินค้าแบรนด์เนมมือสองอยู่ที่ประมาณ 4 พันล้านบาท ปัจจุบันเพิ่มเป็นหลักหลายหมื่นล้านบาท 

 

สอดรับข้อมูลจาก SF Brandname ผู้ให้บริการครบวงจรเกี่ยวกับธุรกิจสินค้าลักชัวรีมือสอง รายงานว่า ก่อนการระบาดของโควิดตลาดสินค้าแบรนด์เนมของไทยเติบโตคงที่และซบเซาระหว่างการระบาดในช่วงแรกของการล็อกดาวน์ประเทศ แต่เมื่อมีการปรับตัว ผู้ซื้อหันมาเลือกช่องทางออนไลน์ในการช้อปปิ้งสินค้า และช่องทางการไลฟ์ก็เป็นตัวช่วยที่ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น จนปัจจุบันผู้ซื้อกลับมาเดินทางได้ตามปกติรูปแบบการซื้อขายก็กลายเป็นการผสมผสานกันระหว่างระบบออนไลน์และออฟไลน์ 

 

โดยยอดขายหน้าร้านของ SF Brandname อยู่ที่ 1 ใน 4 ของยอดขายออนไลน์ ซึ่งผู้ซื้อสามารถเข้าไปชม ตรวจสอบ และสัมผัสสินค้าแบรนด์เนมได้ด้วยตนเอง พร้อมทั้งมีพนักงานคอยให้คำแนะนำ และส่งมอบสินค้าให้กับลูกค้าได้จริง 

 

 

นอกจากนี้ จากงาน SF Brandname Mega Sale Event ที่มีมาตั้งแต่ปี 2019 ก็แสดงให้เห็นว่ายอดขายสินค้าแบรนด์เนมมือสองเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องและมีโอกาสจะโตขึ้นอีกมาก โดยยอดขายภายในงานครั้งแรกจนถึงงานในปี 2021 มียอดเติบโตขึ้นกว่า 530% ทีเดียว

 

อีกหนึ่งภาพสะท้อนความร้อนแรงของตลาดกระเป๋าแบรนด์เนมมือสองของไทยคือลงทุนธุรกิจร้านจำหน่ายสินค้าแบรนด์เนมทั้งรายเล็กและรายใหญ่ โดยมอบประสบการณ์ความหรูหราแทบจะไม่ต่างจากร้านบูติกของไฮแบรนด์เลยทีเดียว อย่างเช่น KANEKOJI (คาเนะโคจิ) ซึ่งตั้งเป้าให้ตัวเองเป็น Brandname Destination ก่อตั้งโดย บริษัท คาเนะโคจิ กรุ๊ป จำกัด ในช่วงของการระบาดของโควิด ที่การซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยในระบบออนไลน์เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด  

 

 

โดย KANEKOJI ให้บริการแบบฟูลเซอร์วิสทั้งขายสินค้า รับซื้อและฝากขายกระเป๋า บริการตรวจกระเป๋าแท้-ปลอม และสปากระเป๋า และยังเปิดร้านในย่านสุขุมวิท จำหน่ายแบรนด์เนมมือสองสินค้าวินเทจ ไอเท็มหายาก และสินค้าที่อยู่ในเทรนด์ฮิต รวบรวมโดยทีม Luxury Expert และพาร์ตเนอร์ จากทั้งในประเทศและต่างประเทศ 

 

ปัจจุบัน KANEKOJI ใช้เวลา 2 ปีสร้างคอมมูนิตี้จนเกิดกลุ่มลูกค้า Top Spender มากกว่า 30% ของลูกค้าทั้งหมด ส่วนในปี 2023 KANEKOJI วางเป้าหมายที่จะขยายกลุ่มเป้าหมายให้กว้างขึ้น เจาะไปสู่ชาวต่างชาติที่อาศัย หรือเข้ามาท่องเที่ยวในไทย เช่น ชาวจีน ชาวญี่ปุ่น ชาวเกาหลี และชาวยุโรป ฯลฯ เติบโตของรายได้ในปีนี้เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 60% จากที่ผ่านมา 

 

นอกจากนี้ยังมีการร่วมทุนของธุรกิจร้านสินค้าแบรนด์เนมมือสองจากญี่ปุ่น Komehyo กับบริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) ในเครือสหพัฒน์ที่ใช้เวลา 2 ปีขยายเป็น 4 แห่งแล้ว และวางแผนเปิดสาขาเพิ่มทุกปีด้วย โดยในประเทศญี่ปุ่นตลาดแบรนด์เนมมือสองมีอัตราเติบโตเฉลี่ย 7% ต่อปี 

 

ปัจจุบัน นอกจากผู้ซื้อในประเทศแล้ว ไทยยังเป็นแหล่งช้อปปิ้งแบรนด์เนมมือสองของประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ลาว อินโดนีเซีย เวียดนาม ฯลฯ และมีศักยภาพที่จะเป็น Hub Center Secondhand Brandname เหมือนในประเทศญี่ปุ่นและฮ่องกง ซึ่งก็คาดว่าตลาดแบรนด์เนมมือสองของไทยยังคงจะร้อนแรงต่อไป และจะมีผู้เล่นรายใหม่ๆ เข้ามาในธุรกิจนี้เพิ่มขึ้นในอนาคตอย่างแน่นอน 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X