×

สำรวจตลาดกระเป๋าหรู ราคายังร้อนแรงอยู่ไหม?

04.09.2022
  • LOADING...

ถ้าย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว กระเป๋าหรูอาจจะไม่ใช่ทางเลือกหลักสำหรับนักลงทุน แต่ปรากฏการณ์ในปี 2019 กระเป๋าหรูกลายเป็นของสะสมที่ทำกำไรสูงสุดถึง 13% แซงหน้างานศิลปะ นาฬิกา รถยนต์ และแม้กระทั่งเครื่องเพชร จนกลายเป็นสินทรัพย์ที่น่าจับตามอง และตอกย้ำความร้อนแรงในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด ที่ความต้องการกระเป๋าสุดหรูในตลาดขายต่อเพิ่มสูงขึ้น ทั้งจากความยากในการเข้าถึงร้านค้า และการผลิตที่ต้องหยุดชะงัก ทำให้ราคาปรับตัวสูงขึ้นอย่างมาก แล้วในปัจจุบันที่ผู้คนเริ่มกลับไปใช้ชีวิตปกติ ตลาดนี้ยังร้อนแรงอยู่ไหม ลองไปสำรวจกัน 

 

ก่อนหน้านี้กระเป๋าหรูจากแบรนด์อื่นๆ ที่ไม่ใช่ Hermès Birkins และ Hermès Kelly’s ที่จำกัดปริมาณการขาย มักไม่ได้ถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ที่เพิ่มมูลค่าได้  และกระเป๋าส่วนใหญ่ราคามักจะปรับตัวลดลงหลังจากการซื้อ ทว่าในปัจจุบันแบรนด์ใหญ่อื่นๆ เริ่มปรับราคาสูงขึ้น และกระจายสินค้าน้อยลง ทำให้ราคาในตลาดขายต่อปรับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย โดยกระเป๋าดีไซน์บางชิ้นยังคงรักษามูลค่าได้เกือบเท่าราคาขายปลีก หรือมากกว่าด้วยซ้ำ 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง


ในเว็บไซต์ขายต่อสินค้าแฟชั่น The RealReal ราคาเฉลี่ยของกระเป๋าดีไซเนอร์เพิ่มขึ้น 26% เมื่อเทียบกับปี 2019 โดย 3 แบรนด์ยอดนิยม ได้แก่ Hermès, Louis Vuitton และ Chanel ราคาเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 55 ในกรณีของ Chanel กระเป๋า Chanel Medium Classic Flap Bag ในสภาพดีขายได้ในราคาเท่าๆ กับราคาขายปลีกในปัจจุบัน บางใบก็อาจจะมีมากกว่า หรือแม้จะรอยเล็กน้อยก็ยังขายได้ราคาเฉลี่ย 74% ส่วนกระเป๋าที่ไม่ได้ขายในระบบออนไลน์อย่าง Goyard รุ่น Saint Louis ก็อาจจะทำราคาได้ถึง 90%

 

นอกจากนี้กระเป๋าหรูยังมีราคาเพิ่มขึ้นแซงหน้าอัตราเงินเฟ้อ อย่างเช่น Chanel Classic เคยมีราคาอยู่ที่ราวๆ 160,000 บาท ในปี 2012 ส่วนในปี 2022 มีราคาเพิ่มขึ้นอยู่ที่ราวๆ 327,000 บาท แม้ว่าจะไม่ทำกำไรเป็นกอบเป็นกำแบบ Hermès แต่แบรนด์ยอดนิยมอย่าง Chanel และ Louis Vuitton ในสภาพดีก็ยังรักษามูลค่าโดยเฉลี่ยได้ถึง 80% ซึ่งถ้าเทียบกับการใช้งานแล้วก็ถือว่าคุ้มค่าทีเดียว

 

ในขณะที่แบรนด์อื่นๆ ราคาก็อาจจะลดลงไปกว่าครึ่งในตลาดมือสอง อย่างไรก็ดีเมื่อปีที่แล้วบางแบรนด์ก็ทำราคาได้ดีขึ้นในตลาดรีเซล เช่น Dior บางรุ่น ก็มีราคาขายต่อเพิ่มขึ้น 40% ในปีที่แล้ว เมื่อเทียบกับปี 2019 ตามข้อมูลจากแพลตฟอร์มขายกระเป๋าสุดหรู Rebag ส่วนที่ Hardly Ever Worn It (HEWI) กระเป๋า Prada และ Fendi ในปีนี้เพิ่มขึ้น 48% และ 78% ตามลำดับ ส่วนหนึ่งเกิดจากการรีบู๊ตสไตล์วินเทจให้กลับมาฮิตอีกครั้ง เช่น กระเป๋า Dior Saddle Bag (ทรงอานม้า) หนังนกกระจอกเทศเคยเปิดขายโดยบริษัทการประมูล Bonham 6 เดือนก่อนจะมีการนำกลับมาทำใหม่ด้วยราคาเพียง 12,700 บาท แต่กลับไม่มีกระแสตอบรับ จนกระทั่งเปิดตัวคอลเล็กชันรีบู๊ตในช่วงปี 2018 กระเป๋าใบเดียวกันสามารถทำราคาได้สูงถึง 85,000 บาทเลยทีเดียว 

 

อย่างไรก็ดีโดยภาพรวมตอนนี้ราคากระเป๋าในตลาดรีเซลเริ่มลดระดับลง เนื่องจากผู้ซื้อเปลี่ยนกลับไปใช้ช้อปปิ้งในบูติกเหมือนเดิมแล้ว แต่ความต้องการกระเป๋าหรูก็ไม่มีสัญญาณที่จะชะลอตัวในเร็วๆ นี้เลย 


5 กระเป๋าราคาแรงจากแบรนด์ยอดนิยม 

 

Chanel Diamond Forever ราคาประมาณ 9.5 ล้านบาท 

 

 

เรียกได้ว่าเป็นกระเป๋า Chanel ที่แพงที่สุดในโลก เพราะใช้วัสดุหรูหราราคาแพงแบบสุดๆ ทั้งหนังจระเข้เกรดพรีเมียม ส่วนโลโก้ Chanel ทำจากเพชร 334 เม็ดหนัก 3.56 กะรัตบนตัวเรือนทองคำขาว มาพร้อมสายกระเป๋าโซ่ทองคำ 18 กะรัต สามารถถอดออกได้ โดย Chanel Diamond Forever ผลิตออกมาเพียง 13 ใบในโลกเท่านั้น   


 

Hermès Birkin Metallic Silver and Bronze ราคาประมาณ 4.97 ล้านบาท 

 

 

กระเป๋า Birkin สีเมทัลลิก เปิดตัวครั้งแรกในช่วงแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่กรุงเอเธนส์ เมื่อปี 2004 และผลิตออกมาอย่างจำกัด โดยปัจจุบันเหลือกระเป๋าเพียงไม่กี่ใบที่ยังอยู่ในสภาพดี โดยในเดือนเมษาบนที่ผ่านมา Hermès Birkin Metallic ได้ถูกประมูลไปด้วยราคา 4.97 ล้านบาท ส่วนก่อนหน้านั้นในเดือนธันวาคม 2021  กระเป๋ารุ่นนี้เคยถูกประมูลไปที่ราคา 4.59 ล้านบาท 


 

Hermès Birkin Rose Sakura ราคาประมาณ 2.34 ล้านบาท 

 

 

เป็นหนึ่งในขวัญใจของนักสะสมสำหรับ Hermès Birkin สีชมพูอ่อน ที่ทำให้นึกถึงดอกซากุระของญี่ปุ่น โดยเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา กระเป๋ารุ่นนี้สร้างสถิติใหม่ที่สถาบัน Sotheby’s โดยกระเป๋าขนาด 25 เซนติเมตร ได้รับการประมูลไปด้วยราคาสูงถึง 2.34 ล้านบาท เทียบกับกระเป๋ารุ่นเดียวกันในปี 2020 มีราคาอยู่ที่ 1.09 ล้านบาท 

 


 

Louis Vuitton Tribute Patchwork ราคาประมาณ 1.64 ล้านบาท 

 

 

นี่คือหนึ่งในผลงานที่ขี้เล่นที่สุดจากแบรนด์สุดคลาสสิก ที่เปิดตัวในคอลเล็กชัน Spring/Summer 2007 จากการออกแบบของ Marc Jacobs ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของ Louis Vuitton ในขณะนั้น โดยกระเป๋าใบนี้ประกอบขึ้นจากชิ้นส่วนของกระเป๋า 15 ใบ มูลค่า 1.64 ล้านบาท และผลิตออกมาเพียง 24 ใบเท่านั้น หนึ่งในเจ้าของกระเป๋าใบนี้ก็คือ Beyoncé 


 

Louis Vuitton Monogram Jacquard Optic Fiber Woven Light ราคาประมาณ 1.05 ล้านบาท

 

 

กระเป๋าที่ผสมความคลาสสิกของ Louis Vuitton ด้วยลายโมโนแกรม แล้วผสมเทคโนโลยีด้วยใยแก้วนำแสงลงบนกระเป๋าขนาด 20 นิ้ว สามารถไล่แสงสีต่างๆ ด้วยการควบคุมผ่านแอปในสมาร์ทโฟน 

 

อ้างอิง: 

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising