เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งอนิเมะยอดฮิตที่มีแฟนคลับติดตามอย่างเหนียวแน่นสำหรับ Kimetsu no Yaiba ดาบพิฆาตอสูร ที่เดินทางมาถึงซีซัน 3 ในชื่อภาคว่า Swordsmith Village Arc กันแล้ว โดยภาคนี้จะพาไปติดตามเรื่องราวของ ทันจิโร่ ที่ต้องออกเดินทางสู่หมู่บ้านช่างตีดาบที่แอบซ่อนอยู่ ณ สถานที่แห่งหนึ่ง เพื่อนำดาบของตัวเองไปซ่อมแซม แต่แล้วจู่ๆ ก็มีอสูรข้างขึ้นบุกมาโจมตีหมู่บ้าน ทันจิโร่และพรรคพวกจึงต้องเข้าเผชิญหน้ากับเหล่าอสูรสุดแกร่งอีกครั้ง เพื่อปกป้องผู้คนในหมู่บ้านช่างตีดาบให้สำเร็จ
ซึ่งหากกล่าวถึงอาชีพช่างตีดาบในประเทศญี่ปุ่น เรียกว่าเป็นหนึ่งในอาชีพที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน รวมถึงมีเหล่าช่างตีดาบชื่อดังมากมายที่รังสรรค์ดาบซามูไรเลื่องชื่อ และยังคงได้รับการยกย่องมาจนถึงปัจจุบัน
วันนี้ THE STANDARD POP จึงถือโอกาสพาทุกคนมาสำรวจเรื่องราวและตำนานเล่าขานของ 3 ช่างตีดาบชื่อดังของญี่ปุ่นกัน
ภาพ: wikipedia
อามาคุนิ ช่างตีดาบผู้ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นจุดเริ่มของดาบซามูไร
อามาคุนิ ยาสุซุนะ คือช่างตีดาบญี่ปุ่นที่มีชีวิตอยู่ในช่วงศตวรรษที่ 8 ไม่มีใครทราบประวัติที่แน่ชัดของอามาคุนิ แต่เรื่องราวของเขามักจะถูกบอกเล่าผ่านตำนานเล่าขานเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งอามาคุนิคนนี้คือผู้ที่ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นผู้ริเริ่มการตีดาบยาวคมด้านเดียว หรือ ทาชิ (Tachi) ซึ่งเป็นต้นแบบของดาบคาตานะ (Katana) ของนักรบซามูไรที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากันในปัจจุบัน
โดยย้อนกลับไปในยุคก่อนที่ดาบทาชิและดาบคาตานะจะถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลาย ทหารญี่ปุ่นมักจะใช้ดาบที่มีลักษณะเป็นดาบยาวสองคมคล้ายกับดาบจีนโบราณที่เรียกว่า เจียน (Jian) เพื่อใช้ในการรบ
วันหนึ่งมีกองทหารของจักรพรรดิที่กลับมาจากสนามรบได้เดินทางผ่านหน้าโรงตีเหล็กของอามาคุนิ เขาสังเกตเห็นว่าดาบของทหารเหล่านั้นหักจนใช้การไม่ได้ เขาจึงนำดาบที่หักเหล่านั้นกลับมาเพื่อหาสาเหตุที่ทำให้ดาบหักง่าย และพบว่าดาบถูกผลิตขึ้นมาอย่างไม่เหมาะสม และทหารนำดาบไปกระแทกกับวัตถุแข็ง นั่นจึงจุดประกายให้เขาต้องการตีดาบที่ไม่มีวันหักขึ้นมา
อามาคุนิและลูกชายของเขานาม อามาคุระ ได้ค้นพบทรายเหล็กและนำมาหลอมเป็นเหล็กชั้นดีที่เรียกว่า ทามาฮากาเนะ (Tamahagane) เพื่อใช้สำหรับการตีดาบ ส่วนรูปลักษณ์ของดาบยาวคมด้านเดียว มีความโค้งงอเล็กน้อย มีที่มาจากการที่อามาคุนิได้ภาวนาต่อเทพเจ้า เพื่อขอให้เขาสามารถตีดาบที่ไม่มีวันหักขึ้นมาได้อย่างที่ตั้งใจ
และในคืนหนึ่ง เขาก็ฝันเห็นภาพของดาบคมด้านเดียว เขาจึงนำภาพที่เห็นมาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบดาบ
ภายหลังจากที่อามาคุนิและลูกชายใช้เวลาในการทดลองและพัฒนาวิธีตีดาบเล่มใหม่อยู่นานหลายเดือน พวกเขาก็นำดาบทาจิไปมอบให้กับจักรพรรดิ เพื่อนำไปใช้ในการรบ ก่อนที่ในเวลาต่อมาเขาก็ได้มาพบกับกองทหารที่กลับมาจากการรบอีกครั้ง และพบว่าดาบของทหารเหล่านั้นไม่หักแม้แต่เล่มเดียว
ไม่นานจากนั้นอามาคุนิจึงได้รับมอบหมายให้เป็นหัวหน้าที่เป็นช่างตีดาบให้กับจักรพรรดิ รวมถึงเทคนิคการตีดาบของเขาก็กลายเป็นเทคนิคที่ได้รับการสืบทอดและถูกพัฒนาต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน
มาซามุเนะ หนึ่งในช่างตีดาบที่เก่งกาจที่สุดในประวัติศาสตร์
หากกล่าวถึงช่างตีดาบชื่อดังของญี่ปุ่น เชื่อว่าชื่อของ มาซามุเนะ หนึ่งในช่างตีดาบที่ได้รับการยกย่องว่าเก่งกาจที่สุดในประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น จะต้องปรากฏขึ้นมาเป็นอันดับแรกๆ อย่างแน่นอน
สำหรับมาซามุเนะ หรือ โกโร่ นิวโด มาซามุเนะ คาดว่ามีชีวิตอยู่ในช่วงยุคคามาคุระ (ปี 1185-1333) โดยคาดการณ์ว่าเขาเริ่มต้นอาชีพช่างตีดาบในช่วงปี 1288-1328 โดยหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ส่งให้ชื่อของมาซามุเนะได้รับการยกย่องว่าเป็นช่างตีดาบที่เก่งกาจที่สุดของญี่ปุ่นนั่นคือ เทคนิคการตีดาบที่เลือกใช้เหล็กชั้นยอด เพื่อสร้างดาบที่งดงาม มีความสมดุล และมีคุณภาพสูงกว่าช่างตีดาบคนอื่นๆ ในยุคเดียวกัน
ตลอดระยะเวลาการเป็นช่างตีดาบ มาซามุเนะได้ตีดาบเลื่องชื่อไว้หลายเล่มด้วยกัน โดยหนึ่งในผลงานที่เป็นที่กล่าวถึงมากที่สุดคือ ฮอนโจ มาซามุเนะ ซึ่งถูกขนานนามว่าเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมที่สุดของมาซามุเนะ และได้รับการส่งมอบจากรุ่นสู่รุ่นภายในตระกูลโทกูงาวะ ก่อนที่จะได้รับเลือกให้เป็นสมบัติประจำชาติในปี 1939
แต่ภายหลังจากที่ญี่ปุ่นพ่ายแพ้ในสงครามโลกครั้งที่ 2 และสหรัฐอเมริกาเข้ามามีอำนาจในญี่ปุ่น จึงได้มีการออกกฎหมายห้ามพกพาดาบซามูไร และทำให้ตระกูลโทกูงาวะต้องมอบดาบที่ครอบครองอยู่ให้กับทางการ
และไม่นานจากนั้นดาบฮอนโจ มาซามุเนะ ก็ได้หายสาบสูญไปอย่างเป็นปริศนา และเนื่องจากมาซามุเนะมักจะไม่เซ็นลายเซ็นของตัวเองลงในผลงาน จึงทำให้ฮอนโจ มาซามุเนะ กลายเป็นดาบเลื่องชื่อของมาซามุเนะที่ยังไม่เคยถูกค้นพบอีกเลย
ปัจจุบันชื่อของมาซามุเนะยังได้ถูกนำมาตั้งเป็นชื่อรางวัล Masamune Prize ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้แก่ช่างตีดาบที่โดดเด่นในการแข่งขันการตีดาบญี่ปุ่นอีกด้วย
มุรามาซะ ตำนานดาบต้องคำสาป และคู่แข่งคนสำคัญของมาซามุเนะ
มุรามาซะ หรือ เซนโก มุรามาซะ ถือเป็นอีกหนึ่งช่างตีดาบญี่ปุ่นชื่อดังที่มีตำนานเล่าขานมากมาย และได้รับการกล่าวถึงมาจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะการถูกกล่าวถึงควบคู่กับมาซามุเนะ ในฐานะของคู่แข่งที่มีฝีมือการตีดาบที่ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน แม้ว่าในความเป็นจริงแล้วมาซามุเนะและมุรามาซะจะมีชีวิตอยู่คนละช่วงเวลากัน แต่ชื่อของทั้งคู่ก็มักจะปรากฏในตำนานเล่าขานอยู่เสมอ
สำหรับมุรามาซะ คาดว่ามีชีวิตอยู่ในช่วงยุคมุโรมาจิ (ปี 1336-1573) โดยความโดดเด่นในผลงานของเขาคือ ใบดาบที่คม แข็งแรง ผลงานส่วนใหญ่ของเขามักจะได้รับความนิยมในชนชั้นสูงของตระกูลโทกูงาวะ
แต่เนื่องจากมีตำนานเล่าขานว่า ผู้ที่ถือดาบของมุรามาซะมักจะได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตอย่างเป็นปริศนา จึงทำให้มีความเชื่อกันว่า ดาบของมุรามาซะเป็นดาบต้องคำสาปที่มีปีศาจสิงอยู่ และทำให้ตระกูลโทกูงาวะสั่งห้ามไม่ให้ใช้ดาบของมุรามาซะอีก เพราะเชื่อว่าจะนำมาซึ่งโชคร้าย
กระทั่งในช่วงสงครามกลางเมือง กองทัพฝ่ายต่อต้านของตระกูลโทกูงาวะได้นำดาบของมุรามาซะมาใช้ในการรบอีกครั้ง เพราะเชื่อกันว่าปีศาจที่สิงอยู่ในดาบของมุรามาซะโหยหาการดื่มเลือดของตระกูลโทกูงาวะ
ขณะที่เรื่องราวเกี่ยวกับตำนานการแข่งขันระหว่างมาซามุเนะและมุรามาซะ เพื่อค้นหาช่างตีดาบที่เก่งที่สุดนั้น ก็มีตำนานเล่าขานที่น่าสนใจอยู่มากมายเช่นเดียวกัน
มีตำนานหนึ่งเล่าว่า มาซามุเนะและมุรามาซะเคยนำดาบของตนเองมาประชันกันว่าดาบของใครเหนือกว่า ด้วยการนำดาบของทั้งคู่มาลอยในแม่น้ำแห่งหนึ่ง ปรากฏว่าดาบของมุรามาซะสามารถตัดทุกสิ่งที่ลอยผ่านมาได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นใบไม้หรือปลาที่ว่ายเข้ามา ส่วนดาบของมาซามุเนะตัดเพียงใบไม้ แต่ไม่ได้ทำร้ายปลาที่ถือเป็นสัตว์ที่รักสงบ
ดาบของมาซามุเนะจึงมักจะถูกเปรียบเปรยว่าเป็นดาบที่งดงาม สงบนิ่ง และทรงเกียรติ ขณะที่ดาบของมุรามาซะคือดาบที่โหดเหี้ยม ชั่วร้าย จนได้รับการกล่าวขานว่า เมื่อดาบของมุรามาซะถูกดึงออกจากฝัก ดาบจะต้องได้ดื่มเลือดก่อนที่จะนำดาบกลับเข้าฝักอีกครั้ง
ภาพ: Aniplex / YouTube
ทั้งหมดนี้เป็นเพียง 3 ช่างตีดาบชื่อดังที่เราหยิบยกมากล่าวถึงเท่านั้น ยังมีช่างตีดาบญี่ปุ่นที่สร้างดาบเลื่องชื่อและมีตำนานเล่าขานที่น่าสนใจอีกมากมายหลายคน เช่น ฮิโคชิโระ ซาดามุเนะ ช่างตีดาบที่สันนิษฐานว่าเป็นลูกชายของมาซามุเนะ หรือ โยชิฮาระ โยชินโดะ หนึ่งในช่างตีดาบญี่ปุ่นที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในยุคปัจจุบัน ฯลฯ
แต่เรื่องราวของพวกเขาเหล่านี้ก็ได้สะท้อนภาพให้เราเห็นแล้วว่า อาชีพช่างตีดาบญี่ปุ่นเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่มีส่วนสำคัญในประวัติศาสตร์อันยาวนานของประเทศญี่ปุ่น และยังคงได้รับการสืบทอดศาสตร์ของการตีดาบ รวมถึงตำนานเล่าขานมากมายที่ยังคงถูกกล่าวขานมาจนถึงปัจจุบัน
ภาพ: Wikipedia
อ้างอิง: