วันนี้ (17 เมษายน) ที่พรรคภูมิใจไทย อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นประธานการแถลงนโยบายการพัฒนาและสวัสดิการอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และอาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร (อสส.)
อนุทินกล่าวตอนหนึ่งว่า สมัยที่ตนเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ตนไม่รู้จัก อสม. แต่พอได้ออกไปปฏิบัติหน้าที่นอกกระทรวง ได้พบเห็น ได้รับการซึมซับ อสม. จนเข้าใจว่าคือฟันเฟืองสำคัญในการปฏิบัติหน้าที่ให้เกิดความเรียบร้อย หลังจากนั้นคำว่า อสม. ก็อยู่ในความคิดของตนตลอด กระทั่งวันที่ได้กลับมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ก็ได้ออกปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ต่างจังหวัดอีกครั้ง ความรู้สึกและบรรยากาศทุกอย่างเหมือนเดิม
เมื่อโควิดเข้ามายิ่งทำให้มีความใกล้ชิดกับ อสม. มากขึ้น ทำให้เรากล้าแสดงให้คนทั้งประเทศได้เห็นความสำคัญของ อสม. ท่ามกลางสถานการณ์โรคระบาด และส่วนตัวได้สมัครเป็น อสม. ด้วย ที่ตำบลอิสาณ อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งน่าจะเป็นหัวหน้าพรรคเพียงคนเดียวที่เป็น อสม.
ทั้งนี้ เราต้องไม่ลืมว่า อสม. คือบุคคลที่เป็นอาสาสมัคร ถ้าเราอยากหาเสียงแบบไม่ลืมหูลืมตา เราคงแถมแหลกแจกสะบัด แต่ตนบอกเสมอว่า อสม. คืออาสาสมัคร ไม่มีใครบังคับให้มา พวกท่านมากันเอง ถ้ามาเรียกร้องค่าตอบแทน ความเป็น อสม. จะหมดไปทันที ตนต้องรักษาศักดิ์ศรีของพวกท่านทุกคนที่เป็น อสม. ด้วย จึงต้องทำให้ทุกท่านยืนหยัดได้ด้วยความมีศักดิ์ศรี เราทำงานขนาดนี้ ก็คงต้องกลับไปดูแลกระทรวงสาธารณสุขอีกครั้ง
“ช่วงโควิดคนมีความศรัทธา อสม. ทุกอย่างเกิดจากการกระทำ เกิดจากความเสียสละของพวกท่าน ถือเป็นระบบเดียวที่สาธารณสุขไทยมี แต่สาธารณสุขทั่วโลกไม่มี พรรคภูมิใจไทยลงเลือกตั้งครั้งนี้ ยังมีอีกหลายอย่างที่ระบบสาธารณสุขไทยต้องมีมากขึ้น ผมคิดว่าพรรคภูมิใจไทยโชคดีมีคนที่เป็น อสม. เป็นถึงประธานชมรม อสม. มาเป็นตัวแทนของพรรค ผมหวังว่าท่านจะให้พรรคการเมืองนี้ได้ต่อยอดดูแลทำประโยชน์ให้พี่น้อง อสม. เพื่อที่สิ่งดีๆ จะได้สะท้อนกลับไปยังประชาชน หากจะมี อสม. เป็น ส.ส. สักคนในสภาผู้แทนราษฎร ผมคิดว่ามีความหมายและสำคัญอย่างยิ่งต่อพี่น้อง อสม. เพื่อที่เขาจะได้ช่วยเข้าไปเป็นปากเป็นเสียงให้ อสม. ถ้าพี่น้อง อสม. 1 ล้านคน เลือกพรรคภูมิใจไทยทั้งหมด ผมไม่ต้องหาเสียงแล้ว ซึ่งภูมิใจไทยน่าจะเป็นพรรคที่สื่อสารกับพี่น้อง อสม. ได้ใกล้ชิดที่สุด” อนุทินกล่าว
อนุทินยังได้กล่าวถึงนโยบายการพัฒนาและสวัสดิการ อสม. และ อสส. ด้วยว่า จะมีการเสนอกฎหมายจัดตั้ง ‘สถาบันอาสาสมัครสาธารณสุขแห่งชาติ เพื่อส่งเสริมสุขภาพภาคประชาชน’ โดยใช้งบประมาณจากภาษีบาป, ค่าตอบแทน อสม. 2,000 บาท, เจ็บป่วยมีประกัน, เจ็บป่วยมีห้องพิเศษฟรี ค่าอาหารฟรี (โรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ใช้บัตรสมาร์ทการ์ด อสม. และ อสส. ยื่นใช้สิทธิ), เงินฌาปนกิจสงเคราะห์ อสม. แห่งประเทศไทย เสียชีวิตได้ 500,000 บาท, เงินยืม อสม. อสส. ปลอดดอกเบี้ยคนละ 100,000 บาท ผ่านกองทุนเงินออม อสม. และ อสส. และจัดตั้งกองทุนเงินออม อสม. และ อสส. โดยเงินทุนมาจาก อสม. ส่งเงินเข้ากองทุน 100 บาทต่อเดือน รัฐบาลส่งเงินเข้ากองทุน 100 บาทต่อเดือน
“เงินของนโยบายพรรคที่เกี่ยวกับ อสม. เป็นเงินที่หมุนเวียนในระบบกองทุนของ อสม. เราไม่ต้องไปตั้งสกุลเงินใหม่ แต่เงินจะหมุนเวียนอยู่ในระบบ อสม. ไม่ต้องใช้งบประมาณประเทศ” อนุทินกล่าวทิ้งท้าย