SCB EIC เผยเริ่มเห็นเงินทุนเคลื่อนย้ายกลับเข้าไทย หลัง ธปท. ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง สวนทาง Fed ที่มีแนวโน้มหยุดขึ้นดอกเบี้ยในช่วงครึ่งหลังของปี คาดดันบาทแข็งแตะ 32-33 บาทต่อดอลลาร์ ณ สิ้นปีนี้
วันนี้ (31 มีนาคม) ดร.สมประวิณ มันประเสริฐ รองผู้จัดการใหญ่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มงาน Economic Intelligence Center (EIC) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ระบุว่า เริ่มเห็นเงินทุนเคลื่อนย้ายกลับเข้าไทย หลังธนาคารแห่งประเทศ (ธปท.) ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง โดยกล่าวอีกว่า ในกรณีฐาน SCB EIC คาดการณ์ว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสู่ 2% ในปีนี้ แต่หากเศรษฐกิจขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง กนง. อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปสู่ระดับ 2.5% ภายในไตรมาส 3 เนื่องจากเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง และเงินเฟ้อไทยจะยังไม่ปรับลดลงเร็วนัก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- SCB EIC ชี้ธุรกิจขนาดเล็กในไทยยังฟื้นจากโควิดช้าและไม่เท่าเทียม แนะรัฐออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ-ช่วยเหลือต้นทุนผู้ประกอบการ
- SCBX เร่งเครื่องขยายธุรกิจตามยุทธศาสตร์ หลังผู้ถือหุ้นไฟเขียวออกหุ้นกู้ 1 แสนล้านบาท ตั้งเป้าเป็นกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีการเงินระดับภูมิภาค
- SCB CIO หนุนลูกค้าเวลธ์ลงทุนตราสารหนี้เทอมฟันด์ โอกาสรับผลตอบแทนจูงใจช่วงดอกเบี้ยขาขึ้น ชู 1 ปี 1.75%
“ผมมองว่าเศรษฐกิจไทยก็ยังมีความเข้มแข็งพร้อมที่จะรองรับดอกเบี้ยที่ขึ้นไปถึง 2.5% ได้ โดยอาจจะเป็นการขึ้นต่อเนื่องในปีนี้เลย หรือเว้นก่อนระยะหนึ่งเพื่อให้การส่งผ่านเกิดขึ้น” สมประวิณกล่าวในงาน Thailand’s Economic and Bank Outlook ซึ่งจัดโดย Fitch Ratings ประเทศไทย
จังหวะดอกเบี้ยไทยและสหรัฐฯ ไม่ตรงกัน
ดร.สมประวิณระบุอีกว่า ช่วงจังหวะเวลาการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของไทยและสหรัฐฯ ไม่ตรงกัน โดยขณะนี้ไทยยังตามสหรัฐฯ อยู่ อย่างไรก็ตาม ดอกเบี้ยนโยบายไทยมีโอกาสปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) เริ่มส่งสัญญาณชะลอการขึ้นดอกเบี้ย ทำให้ช่องว่างระหว่างดอกเบี้ยไทยและสหรัฐฯ มีแนวโน้มแคบลงเรื่อยๆ
โดย SCB EIC คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะขึ้นดอกเบี้ยอีก 1 ครั้ง สู่ Terminal Rate ที่ 5-5.25% ส่งผลให้ดอกเบี้ยจะเริ่มเข้าสู่ Restrictive Zone (ดอกเบี้ยสูงกว่าเงินเฟ้อ) ในไตรมาส 2 และคงระดับนี้ไปตลอดปี
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงเงินทุนเคลื่อนย้ายที่อาจไหลกลับเข้าไทยหลังช่องว่างระหว่างดอกเบี้ยไทยและสหรัฐฯ แคบลง สมประวิณเปิดเผยว่า เริ่มเห็นสัญญาณไหลเข้าบ้างแล้ว เนื่องจากทางฝั่งอเมริกาและยุโรปน่าจะขึ้นดอกเบี้ยอีกไม่มาก นอกจากนี้ ปัจจัยในประเทศไทย โดยเฉพาะการท่องเที่ยวน่าจะมีผลอย่างมาก ซึ่งจะนำมาซึ่งรายได้จากต่างประเทศ โดยอาจจะเห็นสัญญาณเงินทุนไหลเข้ามากขึ้น ทำให้ภายในสิ้นปีนี้ค่าเงินบาทอาจจะกลับมาแข็งค่าที่ 32-33 บาทต่อดอลลาร์ได้
จับตาปัจจัยดันบาทแข็งค่า
สำหรับปัจจัยอื่นๆ ที่จะทำให้เงินบาทกลับมาแข็งค่าในช่วงปลายปีนี้ ได้แก่ แนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยและจีน เศรษฐกิจจีนที่ฟื้นตัวจะส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อไทย สะท้อนจาก Correlation ค่าเงินหยวนและเงินบาทที่ปรับสูงขึ้น
นอกจากนี้ Fed ยังมีแนวโน้มหยุดขึ้นดอกเบี้ยในช่วงครึ่งหลังของปี ทำให้ความผันผวนในตลาดการเงินจะลดลงตามความไม่แน่นอนในตลาดเงินที่จะปรับลดลง Dollar Position จะปรับลดลงได้อีก