วันนี้ (29 มีนาคม) ช่วงบ่ายที่ผ่านมา ภายในบริเวณท่าอากาศยานทหาร กองบิน 41 ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ มีการนำเฮลิคอปเตอร์แบบ KA-32 ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย ออกปฏิบัติการดับไฟป่าที่มีการไหม้ในหลายจุด บริเวณพื้นที่ภูเขาสูง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อบรรเทาผลกระทบจากควันไฟที่เกิดขึ้น ซึ่งทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นมีระยะจำกัด นอกจากนั้นยังส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันของประชาชนในพื้นที่อีกด้วย
ด้าน พล.ต. วีรวัฒน์ วิวัฒน์วานิช รองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละออง ภาค 3 กล่าวว่า ปฏิบัติการทางอากาศเพื่อควบคุมไฟป่า ปัญหาหมอกควันและฝุ่นละออง PM2.5 ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือได้รับผลกระทบรุนแรง หลายหน่วยงานได้ระดมกำลังเข้ามาคลี่คลายปัญหาทั้งระยะสั้นและระยะยาว สำหรับการเกิดปัญหาที่รุนแรงในปีนี้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะข้าวโพดราคาดี เกษตรกรจึงหันมาปลูกมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดการแผ้วถางและเผาป่าโดยไม่ได้ขออนุญาตจำนวนมากตามมาเช่นกัน
ทั้งนี้ เพื่อแก้ปัญหาหมอกควันและฝุ่นละออง PM2.5 ที่เกิดขึ้นในภาคเหนือ โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ หลายหน่วยงานได้ระดมกำลังอุปกรณ์เครื่องมือและกำลังคนเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งภาคพื้นดินและทางอากาศ เช่น เครื่องบินแบบ DA-42 ของกองทัพอากาศ ที่ติดกล้องสำหรับตรวจจับความร้อนตรวจหาจุด Hotspot, เครื่องบินแบบ BT-67 ของกองทัพอากาศ เป็นเครื่องบินสำหรับโปรยน้ำ-สารเคมีเพื่อใช้ในการดับไฟ, เฮลิคอปเตอร์แบบ Bell 407 กรมฝนหลวงและการบินเกษตร, เฮลิคอปเตอร์แบบ MI-17 ของกองทัพบก และเฮลิคอปเตอร์แบบ KA-32 ของ ปภ.
เรื่อง: พงศ์มนัส ทาศิริ
ภาพ: พงศ์มนัส ทาศิริ
