วานนี้ (3 มีนาคม) ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และประธานคณะก้าวหน้า ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล กล่าวปราศรัยบนเวทีหาเสียงของพรรคก้าวไกลที่จังหวัดขอนแก่น โดยระบุว่าตนเองสนับสนุนพรรคก้าวไกลในการเลือกตั้งที่จะมาถึง เพราะเป็นพรรคการเมืองเดียวของประเทศที่กล้าเผชิญปัญหาที่ต้นตอ
ธนาธรเริ่มต้นปราศรัยด้วยการบอกว่า วันนี้ครบรอบสามปีกว่าพอดีหลังพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ ประสบการณ์ของตนจากที่ก่อนหน้านี้เป็นผู้ติดตามการเมืองจากวงนอก วันนี้ได้เป็นผู้เล่นด้วยตัวเอง ทำงานการเมืองจนมีประสบการณ์มาระยะหนึ่งหลังถูกตัดสิทธิ์ ได้ใช้เวลาทำงานร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมากกว่า 60 แห่งในประเทศไทย หลายแห่งอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้ได้เห็นความยากลำบากของประชาชน
“เป็นไปได้อย่างไรในปี 2566 คนส่วนใหญ่ของประเทศยังไม่มีน้ำประปาสะอาดใช้ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กขาดแคลนอุปกรณ์การเรียนการสอน บ่อขยะยังไม่ถูกสุขลักษณะ ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ผมได้เห็นความเดือดร้อนของประชาชน เห็นการทุจริตในสภา การสืบทอดอำนาจของเผด็จการ” ธนาธรกล่าว
ธนาธรกล่าวเพิ่มเติมว่า ในวันที่พรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ ตนเองไม่โกรธ ไม่แค้น แต่น้อยใจในโชคชะตาที่ไม่มีโอกาสมีอำนาจมารับใช้ประชาชน สร้างสังคมไทยที่ลูกหลานมีงานที่มั่นคงทำ มีเงินเหลือมาเลี้ยงดูพ่อแม่ที่แก่เฒ่า สร้างประเทศไทยที่เป็นประชาธิปไตย แต่วันนี้ตนพร้อมทำงานอย่างหนักให้พรรคก้าวไกล เพราะเชื่อว่าพรรคก้าวไกลเป็นพรรคเดียวที่จะทำความฝันของตนให้เป็นจริงได้
“4 ปีที่ผ่านมาสรุปได้อย่างหนึ่งจากประสบการณ์ของผมว่า ประเทศนี้ สังคมแบบนี้ กดขี่เอารัดเอาเปรียบคนส่วนใหญ่ของประเทศ ประเทศนี้เอาดอกผลของการพัฒนาไปจุนเจือให้กับคนส่วนน้อยในสังคม ให้กับอภิสิทธิ์ชนในสังคม ถ้าอยากสร้างสังคมที่ดีขึ้นต้องกล้าชนกับโครงสร้างที่อยุติธรรม ประเทศนี้มีพรรคการเมืองเดียวที่กล้าเผชิญปัญหาที่ต้นตอ กล้าต่อสู้กับกลุ่มทุนผูกขาด ต่อสู้กับรัฐราชการรวมศูนย์ คือพรรคก้าวไกล” ธนาธรกล่าว
ทั้งนี้ ตลอดเวลาหลังยุบพรรค ธนาธรเผยว่าได้เฝ้าดูการเติบโตของพรรคก้าวไกลด้วยความเป็นห่วงว่าจะไปไหวไหม แต่วันนี้มั่นใจได้ว่าพรรคก้าวไกลไปไกลกว่าพรรคอนาคตใหม่แล้ว และคนที่จะนำพาเราไปสู่สังคมที่พวกเราต้องการได้คือ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เพราะพิธาพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในกิจการแปรรูปข้าวเป็นน้ำมันรำข้าว ยกระดับราคาสินค้าเกษตร นอกจากนี้พิธายังสามารถเรียนรู้ เข้าใจโลกและสังคมได้เร็วมาก ฉลาดหลักแหลม พร้อมเรียนรู้ตลอดเวลา และที่สำคัญที่สุดคือมีความกล้าหาญทางการเมือง กล้าอภิปรายในเรื่องละเอียดอ่อน อภิปรายปัญหาสำคัญของประเทศได้อย่างน่าฟัง เปิดประตูบานใหม่ในสภาผู้แทนราษฎร
“ผมเคยเชื่อว่าพิธาจะเป็นรัฐมนตรีที่ดีคนหนึ่ง แต่วันนี้ผมเลิกเชื่อไปแล้วว่าพิธาจะเป็นรัฐมนตรีที่ดี… แต่พิธาจะเป็นนายกรัฐมนตรีที่ดีที่สุด ไม่มีใครเหมาะสมไปกว่าพิธาในการเป็นผู้นำพาประเทศไทยออกจากความสิ้นหวัง จุดเทียนแห่งแสงสว่างให้กับประเทศไทย” ธนาธรกล่าวทิ้งท้าย