“อยากรู้เรื่องยาคูลท์ ถามสาวยาคูลท์สิคะ”
สโลแกนคุ้นหูที่อยู่คู่คนไทยมาเนิ่นนานหลายสิบปี พร้อมภาพจำสุภาพสตรีในชุดสีครีมคาดน้ำตาลกับกระเป๋าคู่ใจที่ข้างในเต็มไปด้วยขวดรูปทรงน่ารัก บรรจุของเหลวที่มีส่วนประกอบเป็นแบคทีเรียฝ่ายฮีโร่อย่างแลคโตบาซิลลัส
สุภาพสตรีที่เรากำลังกล่าวถึงคนนั้นเธอคือ ‘สาวยาคูลท์’ ที่ผู้คนในสังคมไทยรู้จักเป็นอย่างดี
ปี 2514 ยาคูลท์เริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยครั้งแรก และเป็นจุดเริ่มต้นแห่งตำนานสาวยาคูลท์มาจนถึงปัจจุบัน
เป็นเวลาหลายทศวรรษแล้วที่สาวยาคูลท์ทำหน้าที่ส่งต่อจุลินทรีย์ที่มีชีวิต เพื่อสุขภาพของลูกค้าทุกคน
ขณะที่เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา บริษัท ยาคูลท์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้แจ้งลูกค้าว่า ตลอดระยะเวลา 11 ปีที่ผ่านมา ต้นทุนในการผลิตนมเปรี้ยวยาคูลท์เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ยาคูลท์มีความจำเป็นต้อง ‘ขอปรับราคาจำหน่ายสินค้าเพิ่มขึ้น 1 บาทต่อขวด’ โดยจะขอปรับขึ้นราคาสินค้าตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2566 เป็นต้นไป
แน่นอนว่าราคาของยาคูลท์ได้ปรับเปลี่ยนตามสภาพเศรษฐกิจ และการปรับราคาหนสุดท้ายเกิดขึ้นเมื่อ 11 ปีที่แล้ว
ทำให้ตั้งแต่มีวันที่ 1 มีนาคม 2566 เป็นต้นไป ราคายาคูลท์แบบขายปลีก สูตรดั้งเดิม จะอยู่ที่ 8.50 บาทต่อขวด และสูตรไลท์อยู่ที่ 9.50 บาท
ส่วนสมาชิกที่สั่งซื้อเป็นประจำทุกวันหรือทุกสัปดาห์จะจำหน่ายยาคูลท์ สูตรดั้งเดิม ในราคา 8 บาทต่อขวด และสูตรไลท์ในราคา 9 บาทต่อขวด
ช่างภาพทีมข่าว THE STANDARD ลงพื้นที่พูดคุยกับสาวยาคูลท์ถึงการทำงานในช่วงเวลาที่ผ่านมา หลายคนตั้งฉายาให้พวกเธอเป็นนาตาชาเมืองไทย สายลับหญิงผู้สามารถเข้าออกในหน่วยงานรัฐและเอกชนได้ประหนึ่งบ้านของตัวเอง แต่นั่นแลกมาด้วยงานบริการและความไว้วางใจที่พวกเธอสั่งสมมาอย่างยาวนาน
เมื่อสอบถามถึงผลกระทบจากการปรับขึ้นราคาของสินค้าที่จำหน่ายเธอกล่าวว่า ส่งผลกระทบบ้าง เพราะลูกค้าบางคนลดจำนวนลง จากที่เคยสั่งปกติหลายขวด หรือบางคนก็อาจจะยกเลิก แต่ลึกๆ แล้วเธอบอกว่า ยังมีความมั่นใจในสินค้าที่นำมาจำหน่าย เพราะนอกจากความอร่อยแล้ว ยาคูลท์ยังปรับเปลี่ยนเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพที่ผู้คนสามารถจับต้องได้
สำหรับข้อแตกต่างของการทำงานในสถานที่ต่างๆ เช่น สถานที่ราชการ คอนโด หรือหมู่บ้าน ถ้าเป็นสถานที่ราชการเธอบอกว่า เราต้องไปตรงเวลาและให้เกียรติสถานที่ เราสามารถไปยังจุดที่เจ้าของสถานที่อนุญาตได้เท่านั้น
“คนในองค์กรนั้นๆ จะรู้เวลาว่าเรามากี่โมงและจะออกจากที่นั่นเวลากี่โมง ไม่สามารถเดินไปถามได้ว่า ‘รับยาคูลท์ไหมคะ’ เหมือนกับสถานที่สาธารณะทั่วไป เช่น ตลาด หรือป้ายรถเมล์ เราต้องให้เกียรติสถานที่ด้วย” สาวยาคูลท์กล่าว
