ในอีกไม่กี่วัน Rihanna จะทำการแสดงที่สำคัญและยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเธอ ฐานะหนึ่งในศิลปินที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในประวัติศาสตร์ดนตรีกับโชว์ Super Bowl Halftime Show ซึ่งจะจัดเช้าวันจันทร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ตามเวลาประเทศไทย ณ State Farm Stadium เมืองเกลนเดล รัฐแอริโซนา
โดยการแสดงในครั้งนี้ถือว่าเป็นการกลับมาจับไมค์อีกครั้งหลังหายไปนานหลายปี เพราะ Rihanna ไปโฟกัสด้านการสร้างอาณาจักรธุรกิจความงามและแฟชั่นของเธอ บวกกับคุณแม่ลูกอ่อนอีกด้วย ซึ่งหนึ่งในคำถามที่เหล่าบรรดาแฟนคลับกลุ่ม Navy ของเธอถามกันตั้งแต่ประกาศว่าเธอจะมาแสดง Super Bowl Halftime Show ก็คือ เธอจะแสดงเพลงอะไรนะ เพราะหากเทียบกับศิลปินคนก่อนๆ ทาง Rihanna ถือว่ามีเพลงฮิตติดชาร์ตเยอะที่สุด ซึ่งถ้าจะมาซอยสั้นทุกอันเพื่อให้ Fit In ในการแสดงไม่เกิน 15 นาที เธอคงร้องได้แค่หนึ่งประโยคต่อเพลง
หากดูตามสถิติชาร์ตเพลงสำคัญที่สุดของโลกอย่าง Billboard Hot 100 Rihanna มีเพลงอันดับ 1 สูงถึง 14 เพลง มีเพลงติด Top 10 กว่า 32 เพลง และมีเพลงติดชาร์ตทั้งหมด 63 เพลง โดยเพลงที่ประสบความสำเร็จสูงสุดก็คือ We Found Love ที่ติดอันดับ 1 นาน 10 สัปดาห์ ซึ่งเพลงนี้น่าจะอยู่บน Setlist ของโชว์ Super Bowl Halftime Show แน่นอน แต่หลายคนคาดเดาว่าเธอจะใช้เปิดหรือปิดโชว์ บวกกับ Calvin Harris จะมาเป็นแขกรับเชิญไหม ซึ่งหากมาก็มีสิทธิ์ที่จะมีการแสดงเพลง This Is What You Came For ด้วย เพราะเป็นเพลงที่ Calvin ทำ และเป็นเพลงที่มียอดชมมิวสิกวิดีโอสูงสุดบน YouTube ของ Rihanna กับ 2.6 พันล้านวิว
เพลงอันดับ 2 ที่อยู่นานสุดบน Billboard Hot 100 ก็คือ Work นาน 9 สัปดาห์ แต่เพลงนี้ก็ไม่การันตีว่าจะถูกโชว์แน่นอน เพราะด้วยจังหวะของเพลงก็ไม่ได้สนุกสุดเหวี่ยงสำหรับโชว์ Super Bowl หรือเป็นเพลงบัลลาดอลังการอย่างเช่นเพลง Diamonds ที่ Rihanna น่าจะร้องชัวร์ๆ แถมเพลง Work มีการฟีเจอริงกับ Drake ด้วย เราก็ไม่ชัวร์ถึงความสัมพันธ์ของทั้งคู่ ณ ตอนนี้ ซึ่งอาจเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่เพลงสุดฮิตที่หลายคนชอบอย่าง What’s My Name? ที่มี Drake ฟีเจอริงด้วยอาจไม่ได้ถูกแสดง
Umbrella ก็เป็นอีกหนึ่งเพลงอมตะที่แฟนๆ หลายคนคิดว่า Rihanna ต้องแสดงแน่นอนที่ Super Bowl เพราะเป็นเพลงที่ถือว่าเปลี่ยนชีวิตของเธอให้กลายเป็นซูเปอร์สตาร์เลยก็ว่าได้ และเพราะ Jay-Z ฟีเจอริงเพลงนี้อยู่แล้ว พร้อมกับเป็นหนึ่งในคนดูแลการแสดงของโชว์ Super Bowl ก็ Make Sense ที่จะแสดง แต่! ก็จะฟันธง 100% อีกไม่ได้ เพราะ Rihanna เลือกที่จะไม่แสดงเพลงนี้ที่งาน MTV Video Music Awards 2016 ตอนที่เธอรับรางวัลเกียรติยศ Michael Jackson Video Vanguard Award ซึ่งเป็นอีกหนึ่งโมเมนต์ที่สำคัญที่สุดของเธอในด้านการเป็นศิลปิน
Pon de Replay ซิงเกิลเพลงแรกในชีวิตของ Rihanna ถือว่าเป็นอีกหนึ่งผลงานที่คาดเดายากว่าเธอจะแสดงที่ Super Bowl Halftime Show หรือไม่ ซึ่งหาก Rihanna จะปูเส้นเรื่องโชว์ถึงการเป็นศิลปินของเธอตลอดกว่า 17 ปีในวงการ เพลงนี้ถือว่ามีความสำคัญไม่น้อย เพราะเป็นเพลงที่ทำให้โลกได้รู้จักเธอ แถมเป็นเพลงที่สนุกและมีความ Y2K ที่เข้ากับเทรนด์ตอนนี้ แต่หากดูสถิติการแสดงเพลงนี้แล้ว ทัวร์ครั้งสุดท้ายที่เพลงนี้อยู่ใน Setlist ก็คือเมื่อปี 2007 กับ Good Girl Gone Bad Tour ซึ่งหลังจากนั้นเธอก็ไม่แสดงอีกเลย
มาที่ฝั่งเพลงอื่นๆ ที่ Rihanna ได้ไปฟีเจอริงให้ก็ถือว่าน่าจับตามองไม่น้อย อย่าง Love the Way You Lie กับ Eminem ที่ถือว่าคลาสสิกสุดๆ ขึ้นอันดับ 1 นาน 7 สัปดาห์ แต่เพราะ Eminem เพิ่งขึ้น Super Bowl Halftime Show ไปเมื่อปีที่แล้วก็ไม่รู้ว่าเขาจะยอมมาแสดงสองปีติดไหม หรือเพลง Live Your Life กับ T.I. ก็ถือว่าฮิตไม่แพ้กัน และเราคิดภาพคนทั้งสนามกีฬาสนุกกันแน่นอน แต่ปัญหาคือ T.I. ก็เจอปัญหารุมเร้ามากมายในช่วงหลัง ซึ่งอาจจะเสี่ยงเกินไปที่จะให้เขามาแสดง และทำให้ Rihanna โดนกระแสโจมตี เหมือนกับ Kanye West ที่มีเพลงสุดฮิตกับ Rihanna เช่นกันอย่าง All of the Lights กับ FourFiveSeconds
นอกจากนี้ก็มีกลุ่มเพลงที่เข้าข่าย 90% ว่า Rihanna น่าจะแสดง เช่น Only Girl (In the World), Don’t Stop the Music, Rude Boy, Where Have You Been และ Stay ที่ใช้โปรโมตโชว์ในครั้งนี้แล้วทางช่อง Apple Music ที่เข้ามาเป็นสปอนเซอร์ครั้งแรกของ Super Bowl Halftime Show
ปิดท้ายด้วยกระแสข่าวลือว่า Rihanna อาจเตรียมปล่อยอัลบั้มใหม่เร็วๆ นี้ และประกาศเวิลด์ทัวร์ทันทีหลังโชว์จบ ซึ่งไม่แปลกเพราะศิลปินหลายคนมาแสดง Super Bowl Halftime Show ก็ใช้โอกาสนี้ในการปล่อยผลงานใหม่ และแสดงเกือบเต็มเพลง ซึ่งหาก Rihanna เลือกทำสิ่งนี้ก็แปลว่าจะตัดโอกาสที่บางเพลงฮิตของเธอจะไม่ได้ถูกแสดงในโชว์นี้
แฟนเพลงของ Rihanna คิดว่า Setlist การแสดง Super Bowl Halftime Show ของ Rihanna จะมีเพลงอะไรบ้าง สามารถคาดการณ์กันเล่นๆ และคอมเมนต์กันมาด้านล่างได้เลย!
ภาพ: Kevin Mazur / Getty Images for iHeartMedia
อ้างอิง: