ความเชื่อมั่นที่มากจนเกินไปของ โกตัม อดานี ได้นำพาสารพัดปัญหามาอย่างกะทันหัน ล่าสุดหุ้นบริษัทเรือธงของอดานีร่วงลงถึง 28% ทำให้หลายฝ่ายหันไปจับตามองที่หลักประกันเพิ่มเติมที่อดานีต้องการเพื่อใช้ในการกู้ยืม
Adani Enterprises ปรับตัวลงอย่างรุนแรงในการซื้อขายช่วงบ่ายของตลาดหุ้นมุมไบ หลังจากที่ Bloomberg รายงานว่า Credit Suisse ประกาศหยุดรับหุ้นกู้ของบริษัทในเครือ Adani Group ที่เป็นหลักประกันสำหรับสินเชื่อที่ลูกค้ากู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์ ก่อนหน้านี้ธนาคารต่างๆ รวมถึง Barclays ได้ขอหุ้นเพิ่มเพื่อครอบคลุมเงินกู้จำนวน 1 พันล้านดอลลาร์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- โกตัม อดานี มหาเศรษฐีอันดับ 4 ของโลก ต้องสงสัย ‘ปั่นหุ้น-ฉ้อโกง’ ถูกถล่มขายหุ้นฉุดความมั่งคั่ง 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์
- ศึกชอร์ตหุ้น Adani ยังยืดเยื้อ! บริษัทออกรายงาน 413 หน้า โต้แย้งว่าทำทุกอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
- โกตัม อดานี (Gautam Adani) ขึ้นสู่มหาเศรษฐีเบอร์ 3 ของโลกด้วยธุรกิจพลังงานที่มูลค่าหุ้นเพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่ง จนมี P/E กว่า 700 เท่า
เมื่อไพรเวตแบงกิ้งยุติการปล่อยกู้ ลูกค้ามักจะต้องเติมเงินด้วยเงินสด หรือหลักประกันในรูปแบบอื่น และหากพวกเขาไม่ทำเช่นนั้น หลักทรัพย์ของพวกเขาจะถูกเรียกชำระบัญชี
หลังการดิ่งลงของบรรดาหุ้นของ Adani Group จากการชอร์ตหุ้นโดย Hindenburg Research ที่มีมูลค่าถึง 9.2 หมื่นล้านดอลลาร์ ความเสี่ยงที่ตามมาคือสถาบันการเงินจำนวนมากเริ่มตรวจสอบความเสี่ยงของพวกเขาที่มีต่อกลุ่มบริษัทเหล่านี้ที่เป็นลูกหนี้ หากราคาหุ้นในเครือ Adani ไม่มีการฟื้นตัวโดยเร็ว นักลงทุนที่เพิ่งซื้อหุ้นจากการจำหน่ายหุ้นมูลค่า 2.5 พันล้านดอลลาร์ โดย Adani Enterprises อาจต้องเผชิญกับการขาดทุนอย่างหนัก
แหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องระบุว่า เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (27 มกราคม) อดานีได้ค้ำหุ้นมูลค่าประมาณ 300 ล้านดอลลาร์ สำหรับเงินกู้ 1 พันล้านดอลลาร์ ที่ทำโดยธนาคารกลุ่มหนึ่ง
ชารอน เฉิน นักวิเคราะห์สินเชื่อของ Bloomberg Intelligence เขียนไว้ในบันทึกว่า กลุ่มทุน Adani อาจต้องจำนำหุ้นเพิ่มเนื่องจากราคาหุ้นที่ลดลง แม้ว่าจะยังรักษาระดับจำนวนเงินที่ไม่ได้เบิกใช้ตามข้อตกลงที่มีสัดส่วนไม่เกิน 40% ไว้ได้ก็ตาม
การเทขายหุ้นเกิดขึ้นหลังจากที่ Adani Enterprises ประกาศจำหน่ายหุ้น IPO ได้สำเร็จ ซึ่งเป็นการเสนอขายหุ้นที่ใหญ่ที่สุดของอินเดีย แหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องเผยว่า มีตระกูลธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดของอินเดียอย่างน้อย 2 ตระกูล ได้แก่ ซัจจัน จินดาล และ สุนิล มิททาล เข้าร่วมการระดมทุนในครั้งนี้ด้วย
หุ้น Adani Enterprises ร่วงลงต่ำสุดที่ 1,941.20 รูปี ซึ่งต่ำกว่าจุดต่ำสุดของช่วงราคาเสนอซื้อที่ 3,112-3,276 รูปี กว่า 38% โดยบริษัทคาดว่าจะประกาศราคาสุดท้ายสำหรับการเสนอขายในวันนี้
อีกหนึ่งประเด็นที่น่าจับตามองคือ กลุ่มบริษัท Adani มียอดชำระดอกเบี้ยหุ้นกู้มูลค่าอย่างน้อย 289 ล้านดอลลาร์ ภายในปี 2023 เส้นตายแรกคือในวันพฤหัสบดีนี้ (2 กุมภาพันธ์) เมื่อ Adani Ports & Special Economic Zone ต้องจ่ายดอกเบี้ยรวม 24.7 ล้านดอลลาร์ สำหรับหุ้นกู้ 3 ชุด ตามข้อมูลที่รวบรวมโดย Bloomberg
แม้จะยังไม่มีสัญญาณที่บ่งบอกว่าบริษัทในเครือ Adani จะไม่สามารถชำระดอกเบี้ยเหล่านี้ได้ อีกทั้งจากรายงานบัญชีของบริษัทได้แสดงถึงอัตราส่วนความสามารถในการชำระดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับค่อนข้างไร้กังวล
แต่รายงานของ Hindenburg เมื่อสัปดาห์ที่แล้วอ้างว่า Adani มีการตกแต่งทางบัญชี ประกอบกับได้มีสถานะชอร์ตพันธบัตรที่ซื้อขายในสหรัฐฯ และตราสารอนุพันธ์ที่ไม่ได้ซื้อขายในอินเดีย ซึ่งพันธบัตรบางส่วนมีมูลค่าร่วงลงตํ่ากว่า 70 เซนต์ แสดงให้เห็นว่าพันธบัตรเหล่านี้ดูไม่มีความน่าเชื่อถือทางเครดิตมากนัก หนี้ที่บริษัทใกล้ชำระจึงกลายเป็นจุดที่หลายฝ่ายกำลังจับตามอง
อัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อ EBITDA ของกลุ่มบริษัท Adani ทั้ง 6 บริษัท อยู่ที่ช่วงระหว่าง 0.7-10.3 เท่า ขณะที่ค่าเฉลี่ยของหุ้นในกลุ่มดัชนี Nifty 50 อยู่ที่ประมาณ 1.3 เท่า มีเพียงบริษัทเดียวที่มีระดับตํ่ากว่าค่าเฉลี่ย
จากวิกฤตทั้งหมดที่รุมเร้าอดานี ทำให้เขาต้องลงจากตำแหน่งบุคคลที่รวยที่สุดในเอเชีย สูญเสียความมั่งคั่งกว่า 4.4 หมื่นล้านดอลลาร์ ในเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์
ข้อกล่าวหาของ Hindenburg ทำให้เกิดคำถามถึงการกำกับดูแลกิจการของประเทศอินเดีย ในขณะที่อดานีเองก็เรียกรายงานดังกล่าวว่าถือเป็นการโจมตีอินเดีย
อามิต คูมาร์ กุปตา ซีไอโอของ Fintrekk Capital ในนิวเดลีกล่าวว่า การผลิตเงินสดของบริษัท Adani ยังคงย่ำแย่ขณะที่พวกเขาทำการซื้อขายถี่ขึ้น ดังนั้นความสามารถในการชำระหนี้ของพวกเขาอาจลดลงได้หากสิ่งต่างๆ ไม่เป็นไปตามแผน ปัญหาคือถ้าราคาหุ้นไม่ขึ้น อัตราทด (Leverage) ครั้งนี้จะส่งผลเสียอย่างรุนแรงต่อกลุ่มบริษัท
อ้างอิง:
