วันนี้ (2 กุมภาพันธ์) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม หลังรับทราบรายงานการรับจ่ายเงินงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 แล้ว ที่ประชุมได้เข้าสู่วาระเรื่องด่วนร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) จัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากร ฉบับที่.. พ.ศ. …. ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นผู้เสนอ ต่อจากการประชุมสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งอยู่ในช่วงลงมติแต่องค์ประชุมไม่ครบ ดังนั้นวันนี้จึงอยู่ในขั้นตอนตรวจสอบองค์ประชุมเพื่อลงมติ
ศุภชัยได้กดสัญญาณเรียกสมาชิกเข้าห้องประชุมประมาณ 15 นาที แต่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ในห้องประชุมยังบางตา
ด้าน พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส. จังหวัดเชียงราย พรรคเพื่อไทย บอกขอให้ ศุภชัยช่วยแจ้งในไลน์กลุ่มพรรคภูมิใจไทย ขอให้ไปตาม ส.ส. มาเข้าร่วมประชุมด้วย ศุภชัยจึงตอบกลับว่าถ้าจะตามขอให้ช่วยตามทุกพรรค
ขณะที่ ครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส. จังหวัดสุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ระบุว่าการรักษาองค์ประชุมเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องควบคุมองค์ประชุมให้ได้
“ขณะนี้มี ส.ส. ย้ายพรรคกันมากมาย หนักยิ่งกว่าตลาดวัวตลาดควายบ้านผมเสียอีก สมัยก่อนย้ายพรรคแค่ 1-2 คนถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ ต้องหาสาเหตุที่มาที่ไป ไม่เหมือนทศวรรษนี้ที่ย้ายกันเต็มไปหมด ผมขอท้า ถ้าบริหารไม่ได้ก็ยุบสภาไปเลย” ครูมานิตย์กล่าว
ศุภชัยจึงกล่าวตอบว่าตนขอระบายบ้าง ใช่ว่าจะไม่อึดอัด ตนตั้งใจเข้ามาเป็น ส.ส. รอบนี้ ตั้งใจมาทำงานเต็มที่ ขนาดเป็นรองประธานฯ เวลาขึ้นบัลลังก์ก็ทำหน้าที่ประธาน เวลาลงจากบัลลังก์ก็ไปทำหน้าที่สมาชิกช่วยเป็นองค์ประชุม พยายามทำมาโดยตลอด เห็นบรรยากาศอย่างนี้ อย่าว่าแต่คนอื่นเหนื่อยหน่าย ตนก็เบื่อหน่ายเช่นกัน
“ถ้าเป็นไปได้ อยากเรียกร้องเหมือนครูมานิตย์ ว่าท่าน พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถ้าได้ยินก็รีบยุบสภาเสีย เพราะ ส.ส. เขาไม่อยากประชุมแล้ว รัฐมนตรีก็ไม่ยอมมาตอบกระทู้ในที่ประชุม ท่านจะอยู่ไปทำไม ผมก็มีอารมณ์อยากระบายเหมือนกัน” ศุภชัยกล่าว
ท้ายที่สุดมีสมาชิกแสดงตน 190 คน ถือว่าไม่ครบองค์ประชุม จากนั้นศุภชัยจึงสั่งปิดการประชุม