วันนี้ (2 กุมภาพันธ์) ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ลูกเกด-ชลธิชา แจ้งเร็ว นักเคลื่อนไหวทางการเมืองกลุ่มราษฎร และผู้ต้องหาคดีอาญา มาตรา 112 ที่ก่อนหน้านี้ศาลมีคำสั่งปล่อยตัวชั่วคราว กำหนดเงื่อนไขติดกำไลอิเล็กทรอนิกส์ (EM) ที่ข้อเท้า เดินทางมาเพื่อขอถอดกำไล EM ข้อเท้า หลังยื่นคำร้องและศาลมีคำสั่งให้ถอดอุปกรณ์ติดตามตัวได้
ชลธิชากล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนเคยยื่นคำร้องขอถอดกำไล EM ข้อเท้ามาแล้ว 3-4 ครั้ง แต่ได้รับการปฏิเสธ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าตั้งข้อสังเกตว่าเหตุผลอะไรที่ไม่ได้รับการอนุญาต ประกอบกับมีการเปรียบเทียบกับการได้ถอดกำไล EM ของ พิ้งกี้-สาวิกา ไชยเดช นักแสดง และจำเลยคดีฉ้อโกงแชร์ Forex-3D
ทั้งนี้ตนเองก็ได้รับผลกระทบจากการสวมกำไลติดตามตัวที่ข้อเท้าเหมือนกัน นอกจากอุปสรรคที่จะต้องเดินทางไปทำงานต่างประเทศแล้ว ยังเป็นเรื่องของการลงพื้นที่หาเสียงในนามผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรคก้าวไกล ที่กระทบความเชื่อมั่นต่อประชาชน
ชลธิชากล่าวต่อไปว่า กรณีของตนเองถูกคำสั่งให้สวมกำไล EM ตั้งแต่ก่อนการพิจารณาคดี แล้วยังไม่มีคำพิพากษา จึงเป็นเรื่องน่าเศร้าที่ต้องอยู่ในสังคมที่ประชาชนออกมาเรียกร้องให้ผู้พิพากษาปฏิบัติตามกฎหมาย โดยเฉพาะผู้ที่ถูกดำเนินคดีเกี่ยวกับการชุมนุม
สำหรับการเรียกร้องเพื่อถอดกำไล EM ในครั้งนี้ เป็นการเคลื่อนไหวต่อสู้ที่ต่อเนื่องมาจากการอดอาหารและน้ำของ ตะวัน-ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ และ แบม-อรวรรณ ภู่พงษ์ สองนักกิจกรรม เพราะก่อนที่ทั้งคู่จะขอถอนประกันตัวเองก็มีปัญหากับการติดกำไล EM ข้อเท้าด้วยเช่นกัน
“สิ่งนี้จึงถือเป็นการจุดชนวนให้สังคมลุกขึ้นมาเรียกร้องแก้ไขความบิดเบี้ยวของกระบวนการยุติธรรม จนสังคมเกิดความตื่นตัวและนำไปสู่การอนุญาตให้ผู้ที่ถูกดำเนินคดีทางการเมืองสามารถพ้นจากพันธนาการตรงนี้ได้” ชลธิชากล่าว