วันนี้ (2 กุมภาพันธ์) สมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานขับเคลื่อนยุทธศาสตร์นโยบาย พรรคเสรีรวมไทย ในฐานะอดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ลงพื้นที่ไปตรวจราชการเรื่องน้ำที่จังหวัดราชบุรี วานนี้ (1 กุมภาพันธ์) ว่าเป็นการตรวจราชการในช่วงเช้า และในช่วงบ่าย เวลา 14.51 น. พล.อ. ประวิตรได้ใช้ช่องทางดังกล่าวแนะนำว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคพลังประชารัฐ
สมชัยมองว่าช่วงเวลาดังกล่าวถือเป็นช่วงเวลาของการปฏิบัติราชการ ดังนั้นการเบียดเบียนเวลาราชการดังกล่าวจึงไม่เหมาะสม ประกอบกับการลงพื้นที่ดังกล่าว พล.อ. ประวิตรได้ใช้ยานพาหนะ น้ำมัน และทรัพยากรของรัฐในการเดินทางไปราชการในช่วงเช้า และแฝงด้วยการหาเสียงในช่วงบ่าย ซึ่งถือเป็นการใช้หน้าที่ทางราชการเพื่อเอื้อประโยชน์ในการหาเสียงทางการเมือง
สมชัยกล่าวต่ออีกว่า ตนเองจะเดินหน้าเก็บหลักฐานและศึกษาดูรายละเอียดว่ามีหลักฐานเพียงพอหรือไม่ ซึ่งหากเป็นจริง กกต. ต้องดำเนินการเรื่องนี้ เนื่องจาก พล.อ. ประวิตรเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กกต. จะต้องทำหนังสือตักเตือนว่าในอนาคตจะต้องไม่มีสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น
อีกทั้ง กกต. จะต้องทำหนังสือถึง พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อแจ้งว่าผู้ใต้บังคับบัญชาของนายกรัฐมนตรีที่ใช้เวลาของรัฐในการหาเสียง ต้องสั่งให้มีการสอบสวนทางวินัย และต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่เป็นการชั่วคราวจนกว่าการเลือกตั้งจะเสร็จสิ้น ซึ่งหากมีหลักฐานที่ชัดเจน กกต. ยังไม่ดำเนินการจะถือว่าเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีการยุบสภา การกระทำที่อาจผิดกฎหมายดังกล่าวจะเป็นโมฆะเหมือนค่าใช้จ่ายในการหาเสียงที่ไม่ต้องนำไปคิดคำนวณหลังประกาศพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งหรือไม่ สมชัยกล่าวว่า กกต. จะต้องวินิจฉัยว่าให้เริ่มนับค่าใช้จ่ายอย่างไร แต่เรื่องกระทำความผิดกฎหมายเลือกตั้งก่อนยุบสภา กกต. ต้องดูแล หาก กกต. วินิจฉัยทุกอย่างสิ้นสุดลง ตนเองจะร้องต่อ กกต. ว่า กกต. เป็นผู้ทำผิดกฎหมาย พร้อมยืนยันว่า กรณีดังกล่าวหากเป็นการกระทำผิดที่เกิดขึ้นภายในกรอบ 180 วัน กกต. จะต้องดำเนินการต่อด้วย
