วันนี้ (2 กุมภาพันธ์) ช่วงเช้าที่ผ่านมา ช่างภาพทีมข่าว THE STANDARD ลงพื้นที่สำรวจบริเวณถนนสะพานกรุงเทพ 1 เมื่อช่วงเวลา 06.00-09.00 น. พบว่ายังมีคนออกกำลังกายอยู่ พร้อมสวมใส่หน้ากากอนามัย ท่ามกลางฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ถูกปกคลุมทั่วทุกพื้นที่
ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร (กทม.) สรุปผลการตรวจวัด PM2.5 เมื่อเวลา 07.00 น. ตรวจวัดค่าฝุ่นละออง PM2.5 ได้ 71-121 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) (ค่ามาตรฐานไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม.) โดยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับเมื่อวานนี้ในช่วงเวลาเดียวกัน และพบว่าเกินมาตรฐานจำนวน 70 พื้นที่ สูงสุดที่อยู่ที่เขตหนองแขม สามแยกข้างป้อมตำรวจ ถนนมาเจริญ ซอยเพชรเกษม 81 มีค่าเท่ากับ 121 มคก./ลบ.ม.
ขณะที่ AirVisual เว็บไซต์สำรวจคุณภาพอากาศทั่วโลกแบบเรียลไทม์ รายงานว่า ช่วงเวลา 09.00 น. กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย มีคุณภาพอากาศแย่เป็นอันดับที่ 3 ของโลก เป็นรองเพียงมหานครมุมไบ ประเทศอินเดีย และ เมืองลาฮอร์ ประเทศปากีสถาน โดยมีค่าดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 198 US AQI มีสถานะสีแดง อยู่ในเกณฑ์มีผลกระทบต่อทุกคน
ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า เนื่องจากสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ในกรุงเทพฯ มีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยตามแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติการแก้ปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง PM2.5 และการหารือร่วมกับกรมควบคุมมลพิษ ทาง กทม. พิจารณาแล้ว ให้หน่วยงาน กทม. ทำงานจากที่บ้าน (Work from Home: WFH) ยกเว้นส่วนที่ให้บริการประชาชน พร้อมทั้งขอให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา และลดกิจกรรมภายนอกอาคารเป็นระยะเวลา 2 วัน
ทั้งนี้ มีรายงานว่า เวลา 10.30 น. กรมควบคุมมลพิษ เตรียมแถลงยกระดับมาตรการฝุ่น PM2.5 ต่อไป