วันนี้ (18 มกราคม) ที่ลานอเนกประสงค์ ศูนย์การทหารม้า จังหวัดสระบุรี พล.อ. ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นประธานในพิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพลของหน่วยทหาร เนื่องในโอกาสวันกองทัพบกและวันกองทัพไทย
พล.อ. ณรงค์พันธ์ได้ตรวจพลสวนสนาม และทำพิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพล พร้อมนำกล่าวว่า “ข้าพเจ้า ขอกระทำสัตย์ปฏิญาณว่า ข้าพเจ้า จักยอมตาย เพื่ออิสรภาพ และความสงบแห่งประเทศชาติและประชาชน ข้าพเจ้า จักอยู่ในศีลธรรมของศาสนาและจรรยาบรรณ ข้าพเจ้า จะเทิดทูนและรักษาไว้ซึ่งพระบรมเดชานุภาพแห่งพระมหากษัตริย์เจ้า ข้าพเจ้า จักรักษาไว้ซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ข้าพเจ้า จักเชื่อถือผู้บังคับบัญชาและปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด ทั้งจักปกครองแก่ผู้ใต้บังคับบัญชาด้วยความยุติธรรม ข้าพเจ้า จะไม่แพร่งพรายความลับของราชการทหารเป็นอันขาด”
จากนั้น พล.อ. ณรงค์พันธ์กล่าวให้โอวาทว่าวันที่ 18 มกราคมของทุกปี ถือเป็นวันกองทัพไทยและวันกองทัพบก นับเป็นวันที่มีความสำคัญและมีความหมายยิ่งของคนไทยทั้งชาติ ที่ได้น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และบรรพชนทหารกล้า ที่ได้สร้างวีรกรรมอันกล้าหาญ สละเลือดเนื้อและชีวิตเพื่อปกป้องรักษาผืนแผ่นดินไทยให้เป็นมรดกของชนรุ่นหลังมาจนถึงทุกวันนี้ อันเป็นแบบอย่างที่เหล่าทหารทั้งหลายควรยึดถือ และตระหนักถึงภาระหน้าที่ที่มีต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการดำรงไว้ซึ่งความผาสุกของประชาชน
สำหรับทหารใหม่ทุกนาย นับเป็นโอกาสสำคัญที่ได้กระทำสัตย์ปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพลอันศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งแสดงถึงการเป็นทหารอย่างสมบูรณ์และพร้อมทำหน้าที่ทหารของชาติ ที่จะต้องเสียสละ ประโยชน์ส่วนตน เพื่อประโยชน์ของส่วนรวม ตลอดจนอุทิศกำลังกาย กำลังใจ ปกป้องประเทศชาติ ค้ำจุนราชบัลลังก์ และเป็นที่พึ่งหวังของประชาชนในทุกโอกาส จึงขอให้ทุกท่านได้ยึดมั่นและรักษาสัจจะวาจาที่ได้ให้ไว้อย่างเคร่งครัด ด้วยความตั้งใจแน่วแน่ในการปฏิบัติภารกิจที่ได้รับมอบหมายอย่างเข้มแข็ง เป็นทหารอาชีพที่มีเกียรติ ศักดิ์ศรี มีความแข็งแกร่งทั้งร่างกายและจิตใจ ตั้งมั่นอยู่ในระเบียบวินัย ซื่อสัตย์สุจริต มีจิตสาธารณะ พร้อมทำความดีช่วยเหลือผู้อื่น ร่วมมือร่วมใจกันเสริมสร้างกองทัพให้มีความก้าวหน้าเป็นปึกแผ่น สามารถยืนหยัดได้อย่างสง่างามและเป็นกำลังหลักด้านความมั่นคงที่มีศักยภาพของประเทศชาติสืบไป
จากนั้น พล.อ. ณรงค์พันธ์ได้อ่านสาส์นของ พล.อ. เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และปิดท้ายด้วยการสวนสนามของกำลังพล ประกอบด้วยกรมสวนสนาม จำนวน 4 กรม 16 กองพัน จัดกำลังจากกรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์ กรมทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์ กรมทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 2 และกรมทหารปืนใหญ่ที่ 71 โดยมี พล.ต. ณัฐเดช จันทรางศุ ผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ เป็นผู้บังคับกองผสม ซึ่งปีนี้ไม่มีการสวนสนามยานยนต์ แต่มีการนำรถถัง รถเกราะมาตั้งโชว์ในงาน